In Thailand

กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม ก่อนเจออากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค. กทม. 23 องศา

กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม ก่อนเจออากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค. กทม. 23 องศา
Written by Thailand News

 
            กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนอากาศแปรปรวน พายุฤดูร้อนถล่ม ก่อนเจออากาศเย็นหลงฤดู ช่วงวันที่ 16 – 20 มีนาคม 2568 ภาคอีสานอุณหภูมิจะลดลง 5 – 8 องศา กทม. รอบนี้เย็นสุด 23 องศา



พายุ

          วันที่ 14 มีนาคม 2568 นายนัฐวุฒิ แดนดี
รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาฝ่ายวิชาการ และโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า
ในช่วงวันที่ 16-20 มีนาคมนี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน
มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก
รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลด 5-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่น ๆ
จะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 23-27
องศาเซลเซียส

          เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน
แต่เนื่องจากขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน จึงทำให้รู้สึกอากาศเย็นลงวูบวาบ
โดยเฉพาะภาคอีสานที่จะได้รับผลกระทบก่อนภาคอื่น ๆ
ในช่วงกลางวันที่อุณหภูมิสูงสุดต้นทุนเดิม 38-39 องศาเซลเซียส
อาจจะลดลงเหลือ 30-31 องศาเซลเซียส ส่วนตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 16-17
องศาเซลเซียส

 อากาศเย็นหลงฤดู - กทม. 23 องศา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา


          นายนัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัยมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนลงมาผ่านประเทศจีนเป็นหลัก
แต่ปัจจัยทางอ้อม คือ กระแสลมวนขั้วโลก (Polar Vortex)
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่อากาศเย็นขนาดใหญ่ซึ่งหมุนวนอยู่บริเวณขั้วโลกเหนือ
โดยปกติจะถูกกั้นไว้ด้วยกระแสลมกรดขั้วโลก (Polar Jet Stream)
แต่เมื่อกระแสลมวนขั้วโลกขาดเสถียรภาพ
ทำให้กระแสลมกรดถูกรบกวนจนมีกำลังอ่อนลงไปด้วย
อากาศเย็นบริเวณขั้วโลกดังกล่าวจึงสามารถแผ่ขยายลงมายังละติจูดต่ำ ๆ ได้
สร้างความหนาวเย็นให้กับเขตพื้นที่ที่อุ่นกว่า

          อีกทั้งจากภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบจากกระแสลมวนขั้วโลกบ้าง
แต่ไม่ใช่ผลกระทบโดยตรง เนื่องจากมีเทือกเขาหิมาลัยขวางกั้น
แต่ปัจจัยความหนาวเย็นที่สำคัญของไทยคือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมเป็นระลอก
ๆ ทำให้อุณหภูมิลดลงเป็นระลอกเช่นกัน
ระยะเวลาที่อุณหภูมิลดลงรอบนี้จึงยาวขึ้นจากเดิม 2-3 วัน เป็น 3-5 วัน

          โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา
ระบุว่า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศไทยได้สัมผัสอากาศเย็นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน
แต่เคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงปี 2554 ปี 2559 และปี 2565
สถิติจากศูนย์ภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา
ระบุสภาวะอากาศประเทศไทยเดือนมีนาคม 2554 อุณหภูมิต่ำที่สุดวัดได้ 12
องศาเซลเซียส ที่อําเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 17 และ 18 มีนาคม
2554 ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ อุณหภูมิต่ำสุดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554
อยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส

 อากาศเย็นหลงฤดู - กทม. 23 องศา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา


            ต่อมาในเดือนเมษายน 2554
ไทยได้รับอิทธิพลความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะทําให้อุณหภูมิลดลง
โดยเฉพาะช่วงปลายเดือน อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2554 ที่อําเภอเมือง จังหวัดเลย

            ถัดมาในปี
2559
แม้ไทยจะได้รับอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนต่อเนื่อง
แต่ก็ยังพบอุณหภูมิต่ำสุดที่วัดได้ 10.2 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 25
มีนาคม 2559 ที่จังหวัดนครพนม
โดยหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงแผ่อิทธิพลปกคลุมประเทศไทยต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน
2559

 อากาศเย็นหลงฤดู - กทม. 23 องศา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา


            และในปี 2565 ไทยเจออากาศเย็นในฤดูร้อนอีกครั้ง เมื่อวันที่
2-3 เมษายน อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบวัดได้ 14.8 องศาเซลเซียส ที่อำเภอปากช่อง
จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2565

            ดังนั้น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนักและอุณหภูมิลดลง และดูแลรักษาสุขภาพในระยะนี้ไว้ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา




Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »