In Thailand

6 อาหารสู้ “โรคเกาต์” อาการปวดข้อทรมาน ทุกเพศทุกวัยเสี่ยง เลี่ยงได้จากการกิน

6 อาหารสู้ “โรคเกาต์” อาการปวดข้อทรมาน ทุกเพศทุกวัยเสี่ยง เลี่ยงได้จากการกิน
Written by Thailand News

6 อาหารสู้ “โรคเกาต์” อาการปวดข้อที่เป็นแล้วทรมานมาก ทุกเพศทุกวัยเสี่ยง เลี่ยงได้จากการกิน 

โรคเกาต์ เป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดจากการมี กรดยูริกในเลือดสูงเกินไป เมื่อกรดยูริกสะสมจนตกผลึกที่ข้อต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้า จะทำให้เกิดอาการ ปวด บวม แดง และร้อน อย่างเฉียบพลัน มักปวดหนักใน 12–24 ชั่วโมงแรก บางรายอาจมีไข้ต่ำร่วมด้วย

นอกจากข้อแล้ว กรดยูริกยังไปสะสมที่ ไต ทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือไตวายเรื้อรังได้ โรคนี้มักพบในผู้ชายอายุ 35 ปีขึ้นไป และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน แต่ความจริงคือ ใคร ๆ ก็เสี่ยงเป็นเกาต์ได้

สัญญาณและอาการของโรคเกาต์

  • ปวดข้อรุนแรงเฉียบพลัน โดยเฉพาะที่ข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า หรือเข่า

  • ข้อบวม แดง ร้อน และเจ็บมาก แม้แต่แรงกดเบา ๆ ก็ปวด

  • อาจมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือปวดเมื่อยร่วมด้วย

  • อาการมักเกิดเป็นช่วง ๆ แต่ละครั้งนานตั้งแต่ 2–14 วัน

หากสงสัยว่าอาจเป็นโรคเกาต์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจและวางแผนการรักษา

ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ควรกินอาหารอย่างไร?

  1. ลดอาหารพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ผักบางชนิด เช่นกระถิน ชะอม

  2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

  3. เลี่ยงน้ำตาลฟรุกโตสสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน

  4. เลือกโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เต้าหู้ ถั่ว ปลา 

5 อาหารง่ายๆ ป้องกันและต่อสู้กับเกาต์

1. น้ำเปล่า หรือน้ำแร่

ดื่มน้ำวันละ 2–3 ลิตร เพื่อช่วยเจือจางและขับกรดยูริกออกทางไต การดื่มน้ำบ่อย ๆ ตลอดวันดีกว่าดื่มรวดเดียว โดยน้ำแร่ที่มีความเป็นด่างเล็กน้อย ก็ช่วยขับกรดยูริกได้ดีขึ้น 

2. กาแฟดำ

จากการศึกษาพบว่ากาแฟดำที่สกัดคาเฟอีนออกแล้ว (Decaf Coffee) รวมถึงไม่เติมน้ำตาลและครีม วันละ 4-5 แก้ว (เล็ก) มีส่วนช่วยลดระดับกรดยูริกได้ถึง 0.26 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้ปริมาณดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อดื่มในระดับที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล

3. นมพร่องมันเนย หรือนมไขมันต่ำ

มีโปรตีน “เคซีน” ที่เปลี่ยนเป็นกรดอะมิโน อลานีน กระตุ้นการทำงานของไตให้ขับกรดยูริกได้ดีขึ้น

4. เชอร์รี

เชอร์รีอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แอนโทไซยานิน และวิตามินซี ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาปวดข้อ และลดการสะสมกรดยูริก ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคและลดการติดเชื้อง่าย

5. ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (Celery)

ช่วยกระตุ้นการทำงานของไต เพิ่มการขับกรดยูริก มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านอักเสบ บรรเทาอาการเกาต์และข้อบวม รวมทั้งยังช่วย ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ และลดคอเลสเตอรอล ช่วยระบบย่อยอาหาร ขับลม ขับถ่ายดี เพราะแคลอรีต่ำ

Celery

6. อาหารที่มีวิตามินซีสูง

ในปัจจุบันมีหลากหลายงานวิจัยที่กล่าวว่าวิตามินซีมีแนวโน้มช่วยลดกรดยูริกในร่างกายได้ถึง 0.05 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยศึกษาจากกลุ่มคนที่เป็นโรคเกาต์ ผ่านการกินวิตามินซี 500 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลา 30 วัน โดยกลไกของวิตามินซีนั้นมีส่วนช่วยในการขับกรดยูริกที่ท่อไต รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากวิตามินซียังช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งอาหารลดกรดยูริกอย่างวิตามินซีสามารถรับประทานได้ทั้งในรูปแบบเม็ด หรือผักและผลไม้สดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตระกูลส้ม, กีวี, สตรอว์เบอร์รี, มะเขือเทศ เป็นต้น

การเพิ่มอาหารเหล่านี้ในมื้ออาหารประจำวันจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคเกาต์ จัดการกับอาการของโรคได้ดีขึ้น การลดน้ำหนัก นอกจากการควบคุมอาหารดังกล่าวข้างต้นแล้ว สำหรับผู้ป่วยที่อ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือดได้

ขึ้นบัญชีดำ 6 อาหารที่ “โรคเกาต์” ชอบมาก ไม่ใช่แค่ไก่อย่างที่หลายคนเข้าใจ 


Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »