In Thailand

นายห้างอินเดียกราบขอขมา ลูกชายขับเก๋งชนไรเดอร์ดับ ลูกสาวผู้ตายเผยเงินเยียวยาก้อนแรก

นายห้างอินเดียกราบขอขมา ลูกชายขับเก๋งชนไรเดอร์ดับ ลูกสาวผู้ตายเผยเงินเยียวยาก้อนแรก
Written by Thailand News

นายห้างอินเดียกราบขอขมา ลูกชายขับเก๋งชนไรเดอร์ดับ เชื่อไม่ได้เจตนา ลูกสาวผู้ตายเผยจำนวนเงินเยียวยาก้อนแรก

จากกรณี นายเสรี อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้า ขับรถเก๋งไล่ชน  นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี คนขับไรเดอร์เสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท ในพื้นที่แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวแต่ไม่ลงเจรจา

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายเสรี 2 ข้อหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใด ๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น 

จากนั้นเวลา 10.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีได้ควบคุมตัวนายเสรี ส่งฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัว ในขณะควบคุมตัวผู้สื่อข่าวและพยายามสอบถาม ซึ่งผู้ต้องหาไม่ตอบสื่อได้แต่สายหัวก้มหน้า

ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นฝากขัง นายเสรี อายุ 30 ปี ที่ก่อเหตุขับรถชน นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี คนขับไรเดอร์เสียชีวิต ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 6 แสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ติดกำไล EM

ภรรยาไรเดอร์ ลั่น คนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่จะสู้ถึงที่สุด

ด้าน นางสาวสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ถ้าเป็นที่ศาลพิจารณาออกมาแล้ว ตนก็แย้งอะไรไม่ได้ ขนาดตนยื่นค้านประกันไปแล้ว ตนจะไปสู้อะไรได้ ยอมรับว่าตัวเองมีความกังวลใจแน่นอน เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ตนก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าคดีมันจะเปลี่ยนไปหมด เขาได้ประกันตัวออกมาแล้ว คงเดินลอยหน้าลอยตาแล้วป่านนี้

แต่ถึงอย่างนนั้น ตนจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะไม่มีทนาย ไม่มีเงิน ต้องดิ้นรน แต่เชื่อว่าถ้ามีสื่อช่วยนำเสนอข่าว ก็จะได้รับความยุติธรรม โดยเขาเองมีทุกอย่างที่จะสู้ แต่ถ้ามองเรื่องของความเป็นมนุษย์ เขาทำผิดแล้วสำนึกผิด จะมารดน้ำศพ เราก็จะปล่อยให้เขาเข้ามาได้ แต่ในใจตนไม่ขออโหสิกรรมให้

หลังจากเกิดเหตุ เบื้องต้น มีเพียงพ่อของเขาที่ประสานเข้ามาช่วยเหลือ ตัวเขาไม่ได้พูดอะไร ขนาดในตอนเช้าที่เห็นตอนอยู่ใน สน. ลุมพินี ก็ยังเดินลอยหน้าลอยตา ตนมองว่าเจ้าตัวควรรับผิดชอบเอง ไม่ใช่ให้พ่อมารับผิดชอบแทน และก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากอีกฝ่าย เพราะว่าขนาดในตอนเช้าผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะขอโทษหรือไม่เจ้าตัวยังไม่ตอบเลยมองว่าถ้าหากขอโทษก็คงจะขอโทษนานแล้ว และในวันนี้ก็คิดว่าตัวของคนก่อเหตุน่าจะไม่มางานศพคงมีเพียงแค่ครอบครัวของเขาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากคู่กรณีมาจริง ก็จะคุยกับกลุ่มไรเดอร์ ขอความร่วมมือไม่อยากให้มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้นในงาน เนื่องจากสามีตนก็ได้เสียไปแล้ว อยากให้เขาไปสบาย

ลูกสาวไรเดอร์ เผยได้เงินเยียวยามาแล้ว 3 หมื่น

นางสาวพัทธิกา ลูกสาวคนโตของ นายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี ไรเดอร์ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการติดต่อขอโทษและแจ้งว่าจะเข้ามาขอขมาศพคุณพ่อ ซึ่งตนก็ยินดีที่จะให้เข้ามา เพราะครอบครัวของคู่กรณีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ส่วนคู่กรณีถ้าอยากจะเข้ามาขอขมาศพ ตนก็ยินดีเช่นกัน แต่ตนคาดว่าคู่กรณีไม่น่าจะเข้ามาเพราะมีกลุ่มไรเดอร์และมีสื่อมวลชนอยู่ที่งานศพเยอะ เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการแจ้งว่าจะไปรับศพที่นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วย แต่พอตนบอกว่ามีสื่อมวลชนอยู่เยอะอีกฝั่งก็ไม่กล้ามาเลย

ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการรับปากว่าจะเยียวยาชดใช้อย่างสุดความสามารถ ทั้งค่าจัดงานศพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการโอนเงินในเบื้องต้นมาแล้ว 30,000 บาท

ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้ฝากบอกคู่กรณีว่า กล้าทำก็อยากให้กล้ารับผิดชอบ ทุกคนเห็นหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายห้างร้านผ้า พ่อผู้ต้องหา ขอขมาที่งานศพ

นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ ได้เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิศักดิ์ โดยทันทีที่มาถึงก็ได้เข้าไปกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นลูกชายของตนไม่ได้เจตนา รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว

ส่วนลูกชายของตนหลังจากที่ศาลฯ ให้ประกันตัวออกมา ตนก็ยังไม่ได้เจอหน้าและไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย แต่เชื่อว่าลูกชายของตนยังอยู่ในอาการช็อก และเชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องของการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรมศพตลอด 3 คืน

 

 

 


Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »