ธุรการหญิง ร้องถูกอดีตรอง ผอ. ลวงขืนใจบนรถ ย้ำเอาเรื่องถึงที่สุด เก็บทิชชูมีคราบอสุจิเป็นหลักฐาน ชี้คนร้ายย้ายไปเป็น ผอ. ที่โรงเรียนอื่น หวั่นก่อเหตุซ้ำ
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส
วันที่ 21 มกราคม 2568 ข่าวช่อง 3 รายงานกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิง อายุ 29 ปี พนักงานธุรกิจของโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครนายก ซึ่งร้องเรียนว่าถูกอดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษา ลวงไปข่มขืนในรถยนต์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 บริเวณริมถนนแยกสุพรรณิการ์ ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก โดยหลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก แล้ว
ผู้เสียหาย เผยว่า ในวันดังกล่าวตนเดินทางไปธนาคาร โดยมีอดีต รอง ผอ. ดังกล่าวขับรถมาทำธุระที่ธนาคารเช่นกัน และฝากให้ตนกดเงินสด ระหว่างรอคิว อดีตรอง ผอ. อ้างว่ามีงานด่วนต้องรีบไป ให้ตนขึ้นรถติดไปด้วย แต่กลับพาไปคนละทางกับทางกลับโรงเรียน
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็เริ่มลวนลาม ตนเองสู้แรงไม่ไหว จึงถูกล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น อดีตรอง ผอ. ให้เงินสดตนมา 3,000 บาท บอกให้เอาไปกินเที่ยวช่วงปีใหม่ สร้างความเจ็บแค้นให้ตนมาก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้สามีฟัง รวมถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของ อดีตรอง ผอ. รายนี้
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส
โดยที่ผ่านมา อดีตรอง ผอ. ชอบพูดจาทะลึ่ง และชอบลวนลามผู้หญิงบ่อยมาก เคยมีคนโดนแบบตนมาแล้วแต่ก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะอับอาย ก่อนหน้านี้ตนเคยจะถูกอีกฝ่ายข่มขืนที่โรงเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่รอดมาได้ ซึ่งในครั้งนี้ตนได้นำหลักฐาน 2 อย่าง เป็นกระดาษทิชชูเช็ดคราบอสุจิ และเงิน 3,000 บาท ที่คู่กรณีให้มา นำมามอบแก่พนักงานสอบสวน เพื่อเป็นหลักฐาน และให้นำไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
แต่จากนั้น อดีตรอง ผอ. โทร. มาต่อว่าตน ถามว่าทำไมถึงแจ้งความ จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ แต่ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตนจึงนำเรื่องไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครนายก และอยากให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ หวั่นจะไปก่อเหตุที่โรงเรียนอื่นอีก
ผู้เสียหายยังมองว่าคดีเกิดขึ้นมาเกือบ 1 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นตำแหน่ง ย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการที่ จ.ปราจีนบุรี แล้ว
ในส่วนความคืบหน้าทางคดี ทางตำรวจแจ้งว่าอยู่ระหว่างรอผลตรวจอสุจิจากทางโรงพยาบาล หากพบว่าเป็นของ อดีตรอง ผอ. จริง ๆ จะออกหมายเรียกตามขั้นตอน โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ภาพจาก วันใหม่ ไทยพีบีเอส
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, วันใหม่ ไทยพีบีเอส