เปิดแฟ้มคดี ฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดในโลก เด็กชายวัย 8 ขวบจากประเทศอินเดีย โลกของเขาดำมืดขนาดไหน 
 
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
          เด็กบางคนมีพรสวรรค์พิเศษจนสามารถทำลายสถิติโลกได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการประกวด แข่งขันต่าง ๆ หรือด้านการประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุน้อย ทว่าเด็กชายวัยเพียง 8 ขวบ จากประเทศอินเดียรายนี้ เขากลับทำลายสถิติโลกที่น่าหวาดกลัวและเขย่าขวัญผู้คน เมื่อเขาเป็น “ฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดในโลก” 
วันที่ 2 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ ได้เผยเรื่องราวเจาะลึกรายละเอียดของ อมาร์จีต ซาดา (Amarjeet Sada) เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานการใช้ชีวิต ตลอดจนอาชญากรรมของเขา และการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจที่เกิดขึ้นระหว่างการสืบสวน
จุดเริ่มต้น
          อมาร์จีตเกิดในปี 2541 ที่หมู่บ้านมูซาฮาร์ ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เขาเติบโตในครอบครัวที่ยากจนมาก เขาเป็นเด็กเงียบ ๆ ที่ชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยเล่นกับเพื่อน ๆ แต่ในยามว่าง มักจะมีคนเห็นเขาไปเดินเล่นเดินไปรอบ ๆ หมู่บ้านและปีนต้นไม้ ซึ่งดูไม่เหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ผิดปกติของเด็กในวัยนี้ และไม่มีใครสามารถจินตนาการคาดฝันได้เลยว่า เขาจะเป็นผู้ลงมือสังหารเหยื่อจนเสียชีวิต และไม่ใช่แค่คนเดียว 
เหยื่อรายแรก ลูกพี่ลูกน้องวัย 6 ขวบ
โศกนาฏกรรมครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2549 อมาร์จีตก่อเหตุครั้งแรกตอนที่เขาอายุเพียง 7 ขวบ เมื่อป้าของอมาร์จีตมาเยี่ยมครอบครัวของเขา พร้อมกับลูกสาววัย 6 ขวบ อมาร์จีตถูกบอกให้ดูแลน้อง ตอนที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่บ้าน เขาเริ่มด้วยการหยิกและตบลูกพี่ลูกน้องของเขา ก่อนจะใช้ความรุนแรงขึ้นจนบีบคอเธอตาย จากนั้นเขาก็นำร่างของเธอออกที่ป่าใกล้ ๆ ก่อนจะทุบหัวเธออย่างไร้ความปรานี และฝังร่างไว้
การสารภาพที่น่าตกใจ
หลังจากครอบครัวสังเกตเห็นการหายตัวไปของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ไม่นานอมาร์จีตก็รับสารภาพ บอกว่าเขาฆ่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้เอง ครอบครัวตกใจมาก แต่ก็พยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่แจ้งตำรวจเพราะกลัวว่าลูกหลานจะได้รับโทษ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า มันกลับทำให้ปิศาจเติบโตขึ้น เมื่ออมาร์จีต ลงมือก่อเหตุอีกครั้ง ในช่วงเวลาห่างจากครั้งแรกไม่ถึง 1 ปี
เหยื่อรายที่ 2 น้องสาวของเขา
บ่ายวันหนึ่งในฤดูหนาว อมาร์จีตอุ้มน้องสาวของเขาขึ้นมาจากแปล ก่อนที่จะบีบคอเธอจนตาย เมื่อแม่กลับมาพบความสยดสยองนี้ เด็กชายก็ยอมรับว่าเป็นคนทำ เขากล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ผมแค่ทำแบบนั้นเอง” เรื่องครั้งนี้เพื่อนบ้านก็ทราบ จึงเตือนให้พ่อแม่ของเขาแจ้งตำรวจ แต่พ่อแม่ของเขากลับเลือกที่จะตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง ด้วยการปกปิดเรื่องนี้และขอร้องไม่ให้เพื่อนบ้านพูดออกไป
เหยื่อรายที่ 3 ทารกหญิงวัย 6 เดือน
          วันหนึ่งในปี 2550 ขณะที่อมาร์จีตกำลังเดินเล่นแถวบริเวณโรงเรียนในละแวกนั้น เขาสังเกตเห็นเด็กทารกอยู่ในรถเข็นเด็กที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้ ในขณะที่แม่ของทารกแวะไปทำธุระบางอย่าง โดยเชื่อว่าที่ตรงนั้นจะปลอดภัยสำหรับลูกน้อย หารู้ไม่ว่ากำลังมีปิศาจจ้องมองอยู่ หลังจากนั้นมีชาวบ้านเห็นอมาร์จีตอุ้มทารกไป 
การจับกุม
เมื่อแม่ของเด็กกลับมาไม่เจอจึงแจ้งความ และตำรวจได้พาตัวอมาร์จีตไปสอบสวน เขารับสารภาพอย่างหน้าตาเฉยว่า เขาบีบคอและทุบทารกด้วยอิฐจนเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างของเธอไปฝัง เขายังพาตำรวจไปยังจุดที่ฝังร่างของเด็กทารกโดยไม่มีการขัดขืน
ภายหลังจากการสอบสวน อมาร์จีตยอมรับสารภาพถึงการก่อเหตุฆาตกรรมก่อนหน้านั้นทั้งสองครั้ง ทั้งหมดเป็นการสังหารในรูปแบบเดียวกัน และถือว่าการก่อเหตุของเขาเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง
แม้ว่าเขาจะก่ออาชญากรรมที่ชั่วร้าย แต่อมาร์จีตอยู่ในอาการสงบนิ่งอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเผชิญหน้ากับตำรวจ เขาไม่มีทั้งความกลัวหรือความสำนึกผิดต่อการกระทำ ท่าทางการแสดงออกเหล่านั้นทำให้เจ้าหน้าที่ต่างตกตะลึง
การวินิจฉัย
ในระหว่างการควบคุมตัว อมาร์จีตไม่พูดอะไร เอาแต่นั่งยิ้ม นักจิตวิทยาที่ประเมินพฤติกรรมของอมาร์จีต อธิบายว่าเขามีบุคลิกภาพบกพร่องประเภท “ซาดิสต์” ที่ได้รับความสุขจากการทำร้ายผู้อื่น ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพฤติกรรมผิดปกติ
โทษที่ได้รับ
อมาร์จีตเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมในฐานะผู้เยาว์ เนื่องจากกฎหมายอินเดีย เด็กไม่สามารถติดคุกได้ เขาจึงถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจ และถูกขังเดี่ยว จนกระทั่งในปี 2559 เมื่อเขาอายุครบ 18 ปี เขาก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา และใช้ชีวิตภายใต้ชื่อใหม่ ปัจจุบันไม่มีใครทราบที่อยู่ของเขา ในขณะที่ผู้คนยังเกิดความคลางแคลงใจว่า เขาจะกลับมาเป็นปิศาจแบบเดิมอีกหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ, เดอะซัน

 
									 
							 
							 
							 
							 
							