รวบผู้ช่วยหมอฟันแสบ บุกลักทอง 16 บาท พบประวัติเพียบ กำไลอีเอ็มยังคาข้อเท้า

          ผู้ช่วยทันตแพทย์แสบ บุกลักทองคำ 16 บาทในบ้าน มูลค่ากว่า 8 แสน เจ้าของบ้านเครียดแทบจบชีวิต ด้านคนทำอ้าง เงินไม่พอใช้ พบยังมีกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า

ภาพจาก สำนักข่าวไทย

          วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวไทย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ น.ส.สาธิกุล หรือ วา อายุ 42 ปี ผู้ช่วยทันตแพทย์ ได้ที่บ้านพักย่าน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังก่อเหตุแอบเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านหลังหนึ่ง โดยได้ทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวม 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ที่เจ้าของบ้านเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า เหตุเกิดเมื่้อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี
 
          จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายได้ถอดกล้องวงจรปิดในบ้านไป เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน พบหญิงต้องสงสัยสวมหมวกและสวมแว่น เดินกางร่มเข้าในซอยที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ขึ้นรถแท็กซี่ออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งเมื่อตรวจสอบประวัติคนร้ายที่ลักษณะใกล้เคียงกัน ทราบว่าเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์มาแล้วที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อปี 2563

          ทางตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุม ก่อนผู้ก่อเหตุจะนำเจ้าหน้าที่ไปบ้านอีกหลัก ที่เก็บของกลางไว้คือ ทองคำแท่งหนัก 5 บาท 2 แท่ง และหนัก 1 บาท อีก 1 แท่ง รวมหนัก 11 บาท

ภาพจาก สำนักข่าวไทย

          จากการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งทำอาชีพผู้ช่วยทันตแพทย์ เจ้าตัวรับสารภาพ อ้างว่าเงินไม่พอใช้ วันเกิดเหตุได้มาดูลาดเลาตามบ้าน เห็นว่าบ้านที่เกิดเหตุไม่มีคนอยู่เลยลองเปิดประตูรั้ว พบว่าไม่ได้ล็อกประตูจึงเดินเข้าไปขโมยทรัพย์สินและถอดเอากล้องวงจรปิดไปด้วย ก่อนจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ตลาดสด เมืองปทุมธานี

          ยอมรับว่าเอาทองบางส่วนไปขาย ได้เงินมากกว่า 1 แสนบาท
เพื่อจะนำมาจ่ายหนี้ค่างวดรถจักรยายยนต์ของลูก และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
รวมถึงเอาเงินไปวิ่งเต้นคดีที่ถูกจับก่อนหน้านี้
ส่วนทองที่เหลือเอาไปซ่อนไว้ที่บ้านญาติ

          ด้านผู้เสียหายยืนยันว่าทองเป็นของตน โดยเล่าว่าเป็นทองที่ซื้อเก็บสะสมไว้
ตอนนี้ตนกำลังปรับปรุงบ้านใหม่ ยังขาดเงินอยู่ 6 แสนกว่าบาท
เตรียมจะนำทองมาขาย แต่ปรากฏว่าทองหายไป
ทำให้เครียดนอนไม่หลับจนคิดจะจบชีวิต
เพื่อให้ลูกหลานนำเงินฌาปนกิจมาทำบ้านต่อให้เสร็จ

ภาพจาก สำนักข่าวไทย

         
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ผู้เสียหาย
และถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน
โดยกระทำการด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้
 
         
จากตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหา พบว่ามีคดีติดตัวหลายคดีด้วยกัน โดยในปี 2563
เคยถูกจับคดีลักทรัพย์ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ปี 2566
ถูกจับคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด และปี 2566 ถูกจับคดีลักทรัพย์
สน.สายไหม ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างประกันตัวคดีลักทรัพย์ของ สภ.ปากเกร็ด
โดยศาลได้ติดกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย