ภารกิจสุดโต่ง ชายยอมให้งูกัด 200 ครั้ง ฉีดพิษเข้าตัวเอง 700 ครั้ง ทุ่มเทชีวิตตลอด 20 ปี เพื่อมนุษยชาติ
งูมีพิษในโลกมีราว 200 ชนิด จากงูทั้งหมดประมาณ 3,000 ชนิด แต่บางสายพันธุ์มีพิษร้ายแรงถึงขั้นทำให้มนุษย์พิการหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ที่รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา มีชายคนหนึ่งชื่อว่า “ทิม ฟรีด” (Tim Friede) ได้อุทิศชีวิตกว่า 20 ปี เพาะเลี้ยงงูมีพิษไว้ในบ้าน และยอมให้ตัวเองถูกกัดกว่า 200 ครั้ง เพื่อสร้าง “เซรุ่มต้านพิษงูครอบจักรวาล” ที่ปัจจุบันกลายเป็นกุญแจสำคัญของการวิจัยระดับโลก
ภารกิจสุดโต่ง สู่ความหวังของมนุษยชาติ
ตามรายงานของ BBC ทิม ฟรีด ได้ถ่ายคลิปกระบวนการให้งูกัดและฉีดพิษเข้าตัวเองมากกว่า 700 ครั้ง แล้วนำลง YouTube ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก งูที่เขานำมาใช้ล้วนเป็นสายพันธุ์อันตรายที่สุดในโลก เช่น งูแบล็กแมมบา งูเห่า งูไทปัน และงูไครท์
ความหลงใหลของเขาทำให้ครอบครัวแตกแยก ภรรยาของเขาพาลูกจากไปเพราะทนพฤติกรรมสุดโต่งของเขาไม่ไหว แต่ทิม ฟรีดยังคงมุ่งมั่นในภารกิจ บอกว่าไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงหรือยอดผู้ติดตาม แต่เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากงูกัดทั่วโลก
“มันกลายเป็นวิถีชีวิต ผมผลักดันตัวเองถึงขีดสุด เพื่อคนที่อยู่ไกลออกไป 8,000 ไมล์ ซึ่งกำลังจะตายเพราะงูกัด” ทิมกล่าว
เลือดมนุษย์ที่อาจช่วยชีวิตคนนับแสน
นักวิจัยจากบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Centivax ค้นพบว่าในเลือดของทิม ฟรีด มีแอนติบอดีที่สามารถต้านพิษงูหลากหลายชนิดได้อย่างน่าทึ่ง
ผลการทดลองในห้องแล็บระบุว่า แอนติบอดีจากเลือดของทิมสามารถป้องกันพิษร้ายแรงจากงู 13 สายพันธุ์ในกลุ่ม “เอลาพิด” (เช่น งูเห่า แบล็กแมมบา และไครท์) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้การป้องกันบางส่วนกับงูอีก 6 สายพันธุ์
เป้าหมายต่อไป: เซรุ่มรวมเดียวเอาอยู่ทุกพิษ
ทีมนักวิจัยกำลังปรับสูตรเซรุ่มให้มีส่วนผสมเพิ่มขึ้น เพื่อหวังให้สามารถป้องกันพิษงูได้ครบทุกสายพันธุ์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น “เอลาพิด” ที่ใช้พิษต่อระบบประสาท หรือ “ไวเปอร์” ที่เน้นทำลายเลือดและเซลล์โดยตรง
“ผมคิดว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า เราจะมีเซรุ่มที่จัดการกับพิษงูทุกประเภทได้” ศ.ปีเตอร์ ควอง แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าว
จากความเจ็บปวด สู่ความภาคภูมิใจ
แม้เซรุ่มต้นแบบนี้ยังต้องผ่านการทดลองอีกมากก่อนนำมาใช้กับมนุษย์ได้จริง แต่วงการแพทย์ต่างยกย่องว่าเป็นความก้าวหน้าอย่างน่าตื่นเต้น
“ผมภูมิใจมากที่ได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อมนุษยชาติ” ทิม ฟรีด กล่าวทิ้งท้าย “มันเจ๋งสุดๆ ไปเลย”
Source link