In Thailand

แม่ลูกสอง จู่ๆ นิ้วก้อยงอไม่ได้ รักษายังไงก็ไม่หาย คำตอบจาก ChatGPT ช่วยชีวิตเอาไว้

แม่ลูกสอง จู่ๆ นิ้วก้อยงอไม่ได้ รักษายังไงก็ไม่หาย คำตอบจาก ChatGPT ช่วยชีวิตเอาไว้
Written by Thailand News

“นิ้วก้อยงอไม่ได้” คุณแม่ลูกสองรักษาเท่าไรก็ไม่หาย ลองถาม ChatGPT พอให้หมอตรวจละเอียดก็ต้องอึ้ง

ลอเรน แบนนอน คุณแม่ลูกสอง วัย 40 ปี จากไอร์แลนด์เหนือ ปัจจุบันอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 เมื่อพบว่านิ้วก้อยของเธองอได้ยากตลอดทั้งวันและคืน

ด้วยความกังวล เธอจึงไปพบแพทย์ แม้ผลตรวจในเบื้องต้นจะไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่แพทย์วินิจฉัยว่าเธออาจเป็นโรครูมาตอยด์ (ข้ออักเสบรูมาตอยด์)

ลอเรน เล่าว่า ต่อมาเธอเริ่มมีอาการปวดท้องรุนแรง จนน้ำหนักลดฮวบ แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคกรดไหลย้อน

แต่เพราะเธออยากรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย จึงหันไปถามความเห็นจาก ChatGPT ซึ่งให้คำตอบว่าเธออาจเป็นโรคฮาชิโมโตะ (Hashimoto’s thyroiditis) หรือ โรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง

Kennedy News and Media

ลอเรนตัดสินใจกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง แม้แพทย์จะยังไม่ปักใจเชื่อคำแนะนำของ ChatGPT แต่เมื่อทำการตรวจไทรอยด์ ก็พบก้อนเนื้อขนาดเล็ก 2 ก้อนบริเวณลำคอ สุดท้ายในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เธอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง

ลอเรน กล่าวว่า หากไม่มีความช่วยเหลือจาก ChatGPT เธออาจไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองเป็นมะเร็ง

“ฉันรู้สึกผิดหวังกับหมอมาก พวกเขาดูเหมือนแค่อยากรีบสั่งยาให้ฉันแล้วไล่กลับไป ทั้งที่ฉันแค่อยากรู้ว่าร่างกายของฉันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เมื่อต้นปีนี้ ลอเรนเข้ารับการผ่าตัด และสามารถนำก้อนมะเร็งบริเวณไทรอยด์และต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอออกได้สำเร็จ ขณะนี้เธอต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาอีก

นอกจากจะรู้สึกขอบคุณ ChatGPT ที่ช่วยให้เธอรอดชีวิต ลอเรนยังฝากเตือนว่า หากใครมีอาการผิดปกติคล้ายกัน ควรใช้คำแนะนำจาก ChatGPT อย่างรอบคอบ และอย่าลืมไปตรวจเช็กกับแพทย์โดยตรงด้วย


Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »