ซุง ศตาวิน ไล่ไทม์ไลน์ ดิว อริสรา ยืมเงิน 12.5 ล้าน หลังถูกมองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง ยันไม่รู้จักกับผู้ใหญ่ที่อ้างว่าตนเคารพ เปิดแชตชี้ ดิวบอกกำลังจะขายสร้อย BVLGARI
ภาพจาก โหนกระแส
ความคืบหน้า กรณี ดิว อริสรา ในเรื่องเกี่ยวกับการยืมทรัพย์สินไฮโซเมย์ 62 ล้าน แต่กลับพบว่านำไปขายต่อ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นเพราะจำเป็นต้องนำเงิดสดไปคืนให้แก่ ซุง ศตาวิน ที่เคยยืมเงินซุงกับพี่อีกคนมาจำนวน 20 ล้าน โดยยืนยันว่าคืนเงินซุงไปหมดแล้ว เหลือในส่วนของดอกเบี้ยนั้น
ล่าสุด (20 มีนาคม 2568) ซุง ศตาวิน อินฟลูเอนเซอร์ดัง ก็ได้ออกมาเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมเผยไทม์ไลน์ในส่วนที่ ดิว อริสรา มายืมเงินตน
ภาพจาก Instagram duearisara
– เริ่มจากรุ่นพี่ชื่อแทม โทร. มาเล่าให้ซุงฟังว่ามีเพื่อนที่กำลังตั้งท้อง ทำธุรกิจเกี่ยวกับแม่และเด็ก โทร. มาร้องไห้ว่ามีความจำเป็นต้องนำเงินไปหมุนสต็อก มิเช่นนั้นของจะถูกยึด และจะขอยืมเงินพี่แทม 20 ล้านบาท ถ้าให้ยืมจะคืนเป็นดอกเบี้ยให้ 2 ล้าน
– พี่แทมมีอยู่แค่ 7.5 ล้าน ส่วนซุงมี 12.5 ล้าน ซุงไม่รู้จัก แต่ก็บอกไปว่าหากตนช่วยเพื่อนพี่ ให้ถือว่าตนตอบแทนที่พี่เคยช่วยเหลือ และตกลงจะให้ยืม 12.5 ล้าน
– หลังตกลงให้ยืมเงิน ก็ได้สอบถามจนทราบว่า คนที่ขอยืมคือ ดิว อริสรา ซุงยอมรับว่าตกใจ แต่ก็เข้าใจเรื่องที่ต้องเอาเงินไปหมุน
– เพราะมันเป็นเงินจำนวนถึง 12.5 ล้าน ซุงเลยบอกว่าจะขอไปกับพี่แทมด้วย วันที่เอาเงินไปให้ ซึ่งพี่แทมบอกว่า ดิวเสนอจะเซ็นเช็กให้ 12.5 ล้าน แก่ซุง และเสนอว่าจะมีต่างหูเพชรให้ด้วย มูลค่า 20 กว่าล้านบาท
– ซุงเห็นว่ามีพี่ที่ไว้ใจ อีกฝ่ายเป็นดิว อริสรา รวมถึงมีเช็กและต่างหู เพชรเม็ดใหญ่มาก จึงไม่ได้ติดใจสงสัย
– วันที่เอาเงินไปให้ ดิวไม่ได้มาเอง แต่ให้แม่ถือต่างหูเพชรมาให้ วันนั้นตอนเอาเงินสดไปให้ เพราะคิดแค่ว่าหากโอนเงินไปเฉย ๆ ก็คงไม่ได้เจอตัวพี่ดิว
ภาพจาก โหนกระแส
– ผ่านไป 2-3 วัน พี่แทมโทร. มาบอกว่า มีคนที่ดูเพชรเป็น ส่องเพชรที่ดิวเอามาให้แต่ไม่เจอบาร์โค้ดเพชร คาดว่าน่าจะเป็นของปลอม แต่ซุงก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อ เพราะดิวก็ทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ดูไม่น่าจะใช้เพชรปลอม
– ซุงเสนอให้พี่แทมลองเอาเพชรไปตรวจหลาย ๆ ที่ ซึ่งอีกไม่กี่วันก็ทราบว่า จากการให้อีก 2-3 คนตรวจดู ทั้งหมดคิดว่าเป็นของปลอม ไม่มีใครคิดว่าเพชรแท้
– ยอมรับว่าใจเสียแล้ว แต่คุยกับพี่แทมว่าจะยังไม่บอกพี่ดิว เพราะเหมือนเอาของที่รับมาไปตรวจย้อนหลัง เหมือนไม่ไว้ใจกัน แล้วพวกพี่เขาสนิทกัน
– ซุงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร ทั้งแม่ แฟน หรือแม้แต่เพื่อน ๆ เพราะกลัวถูกด่า จากนั้นก็เคยไปซูมดูในไอจีของดิว ว่ามีอะไรที่สามารถนำมาแปลงเป็นเงินได้ไหม ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่สามารถคืนเงินได้
– กำหนดใช้เงินคืนคือ 23 กรกฎาคม แต่ดิวก็โทร.
มาร้องไห้กับพี่แทม และขอเลื่อนออกเป็นวันที่ 3 สิงหาคม
แต่ถึงเวลาก็ยังไม่จ่ายคืน
– ตอนนั้นซุงต้องใช้เงิน
เพราะซุงทำธุรกิจกับเพื่อน ถึงเวลาที่จะเอาเงินไปวางรวมกันแล้ว
สุดท้ายซุงเลยต้องเล่าให้แฟนกับเพื่อน ๆ ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
พร้อมรับปากว่าวันที่ 6 สิงหาคม จะให้เงิน
– 6 สิงหาคม
ดิวยังเงียบ ตนไม่ไว้ใจดิวแล้ว เลยให้พี่แทมสร้างกรุ๊ปไลน์ ที่มีดิว ซุง
และแทม โดยตั้งใจว่านับจากนั้นจะคุยผ่านแชตทั้งหมด เพื่อให้มีหลักฐาน
– เริ่มมาดิวก็บอกเลยว่า คงไม่สามารถใช้เงินคืนให้ได้ทั้งหมด และอ้างว่าเขามีสร้อยอยู่เส้นหนึ่ง “เป็นสร้อยของพี่เอง” กำลังจะเอาไปขาย
-
ปรากฏว่าสร้อย BVLGARI ที่ดิวอ้างเป็นของตัวเอง และกำลังจะนำไปขาย
คือสร้อยของไฮโซเมย์ แต่ตอนนั้นซุงไม่รู้ (ทางร้านเผย รับซื้อในราคา 7
ล้านบาท)
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
–
ซุง ยืนยันว่า ต้องการเงิน 12.5 ล้านที่ดิวยืมไป
ตนไม่ได้พูดว่าให้เอาของมาค้ำประกัน เพราะตนต้องเอาไปลงทุนต่อ
ยืนยันให้ใช้เป็นเงินสดเท่านั้น
– สุดท้าย ดิวทยอยโอนเงินมาใช้คืนทีละก้อน จนได้เงินต้นครบในวันที่ 7 สิงหาคม
– ซุงไม่ได้ติดต่อดิวอีก แต่วันหนึ่งพี่แทมโทร. มาแจ้งว่า
พี่เขายังไม่ได้รับเงินต้นคืนเลย 7.5 ล้านบาท และถามว่าซุงได้เงินไหม
มีการทวงอะไรไหม และฝากให้ซุงเช็กสภาพการเงินของดิว
เพราะซุงได้เงินคืนครบคนเดียว
– ซุงตัดสินใจเช็ก ด้วยการทวงดอกเบี้ยจากดิว โดยตั้งใจว่าหากได้เงินนั้นก็จะเอามาให้พี่แทม
– ดิวอ้างว่า ตอนนั้นแทมกับซุงบอกว่าไม่ซีเรียส
แต่ตัวเองรับปากแล้วว่าจะให้ ก็จะใช้เงินคืน
แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าภายในวันไหน บอกเพียงได้เงินเมื่อไหร่จะติดต่อมา
– สำหรับเงิน 20 ล้านที่ดิวยืมซุงกับแทม ของซุงได้เงินต้นคืนครบ 12.5
ล้านบาท ส่วนแทม น่าจะยังเหลืออีกล้านกว่าบาท ตามที่ดิวแจ้งเมื่อวาน (19
มีนาคม)
– หลังจากนั้นซุงไม่ได้ทวงดอกเบี้ยอะไรต่อ จนอยู่
ๆ ก็มีคนของไฮโซเมย์ ติดต่อมาว่าซุงเป็นจุดเริ่มต้นของคดี
จากนั้นซุงรู้สึกว่าจำเป็นต้องมีทนาย
แต่หลังติดต่ออีกฝ่ายไปว่าพร้อมคุยแล้ว ก็ทราบว่าไม่ทันแล้ว
ฝ่ายนั้นแจ้งว่ารอไปให้ปากคำกับผู้ใหญ่ได้เลย
ซึ่งซุงยืนยันว่ายินดีให้ปากคำ หากจะทำให้คุณเมย์ดำเนินการง่ายขึ้น
– ประเด็นที่ดิวอ้างว่า หากนำของไปไว้กับบุคคล ๆ หนึ่ง
แล้วซุงจะไม่กล้าไปทวงหนี้ เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนั้น
ซุงดูภาพแล้วยืนยันว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่เคยคุยกับคน ๆ
นี้หลังไมค์ ไม่ได้นับถืออะไร รู้แค่ว่าเป็นคนในสื่อเท่านั้น หรือกล่าวคือ
ดิวแค่เอาชื่อบุคคลนั้นมากล่าวอ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส