ดราม่า หมอลงคลิปผ่าศพ ชู 2 นิ้วยิ้มร่า พบคนโพสต์เป็นถึง ผอ.คลินิกเสริมความงาม ทัวร์ถล่มเละ เจ้าตัวยันเจตนาดี โอกาสฝึกกายวิภาคไม่ได้มีบ่อย
วันที่ 24 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ MS News รายงานว่า
ศัลยแพทย์เสริมความงามในประเทศญี่ปุ่น กำลังเจอทัวร์ลงเดือด
หลังโพสต์คลิปโชว์การผ่าศพแบบไม่เซ็นเซอร์บนโซเชียลมีเดีย
ระหว่างการฝึกอบรมด้านกายวิภาคศาสตร์ในเกาะกวม ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ซึ่งแม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษในเวลาต่อมา
แต่ชาวเน็ตยังมองว่าเป็นความพยายามเบี่ยงประเด็น และขอโทษไม่ตรงจุด
รายงานเผยว่า
ต้นตอของดราม่าดังกล่าวเกิดขึ้นจากโพสต์บนไอจีของแพทย์หญิงรายดังกล่าว
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เธออวดภาพและคลิปของตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน
ที่เข้าร่วมการฝึกอบรมกายวิภาคในเกาะกวม
ซึ่งในภาพเหล่านั้นเผยให้เห็นร่างอาจารย์ใหญ่ที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์
ทำให้ชาวเน็ตมองว่าแพทย์หลุ่มนี้ดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร
กับการอวดภาพศพที่ถูกบริจาคมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษา
ราวกับไม่เคารพเจ้าของร่าง
ขณะเดียวกัน
มีการเปิดเผยข้อมูลของแพทย์หญิงรายดังกล่าว
พบว่ามีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการคลินิกเสริมความงามชื่อดัง
สาขาจังหวัดโอกินาว่า ส่วนโพสต์ที่เป็นประเด็นนั้นแม้จะถูกลบไปอย่างรวดเร็ว
แต่ก็ยังมีชาวเน็ตมากมายที่บันทึกภาพไว้ได้ แล้วนำมาโพสต์ต่อบนโซเชียล
เมื่อเผชิญกระแสวิจารณ์หนัก
ในที่สุดแพทย์หญิงรายนี้ก็ออกมาขอโทษสาธารณะชน ต่อการกระทำดังกล่าว
โดยระบุว่า “ฉันขออภัยจริง ๆ ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจกับโพสต์ของฉัน
เกี่ยวกับการฝึกอบรวมด้านภายวิภาคในกวม”
นอกจากนี้ยังระบุว่า
“ฉันพบว่ามีคอมเมนต์มากมาย
บอกว่าการแชร์ประสบการณ์ฝึกภาควิภาคนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม
โอกาสที่จะได้ผ่าศพสด ๆ
และเพิ่มพูดความรู้กับทักษะด้านกายวิภาคของฉันนั้นหาได้ยากมา
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยในญี่ปุ่น”
เธอยังอ้างว่า
เจตนาของการโพสต์ภาพและคลิปเหล่านั้น
ก็เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาม
และย้ำว่ามีแพทย์ในญี่ปุ่นมากมายที่ไม่รู้เรื่องโอกาสแบบนี้
รวมถึงอ้างว่าเพื่อนร่วมงานหลายคนยังเข้ามาหาเธอ
แสดงความสนใจหลังเห็นโพสต์นั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม
ชาวเน็ตบางส่วนยังคงไม่พอใจ โดยคอมเมนต์หนึ่งชี้ว่า
แม้ประสบการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์
แต่พวกเขารู้สึกผิดหวังกับวิธีการที่เธอปฏิบัติกับศพ
และวิจารณ์ว่าเธอขาดความเคารพต่อเจ้าของร่างเหล่านั้น
ยังมีบางส่วนมองว่าเธอขอโทษได้ไม่ตรงประเด็น
ปัญหาจริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่การไม่ได้เซ็นเซอร์ศพให้มิดชิด
และมองว่าแพทย์หญิงรายนี้ดูเหมือพยายามเบี่ยงเบนความผิด
และเปลี่ยนประเด็นในการโต้แย้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก MS News