ฝากขัง บอย มือฆ่า น้ำ สาวเสมียน แทง 20 แผลหมกห้องเช่า สารภาพโยนผิดให้คนตาย พบคดีติดตัวเพียบ นายจ้างเผยเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากเหตุสะเทือนขวัญ กรณี น.ส.ปัทมาพร หรือ น้ำ อายุ 30 ปี เสมียนสาว ถูกแทงเสียชีวิตกว่า 20 แผล ในคาห้องเช่าพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง นั้น
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าห้องเช่าพบว่า ช่วงเช้ามืดวันที่ 12 ธันวาคม มีชายต้องสงสัย ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าห้องเกิดเหตุ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้อง โดยใช้เวลาประมาณกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นออกมาปล่อยลมยางรถยนต์ผู้ตายที่จอดอยู่หน้าห้องแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นเพื่อนชายคนสนิทของผู้ตาย คาดสาเหตุมาจากปมชู้สาว
ต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ได้ขอศาลออกหมายจับ นายอิสรเทพ หรือ บอย อายุ 34 ปี ในข้อหาฆ่าคนตาย กระทั่งคืนวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมนายอิสรเทพ ได้ภายในห้องพักคนงาน ไม่มีเลขที่ หลังได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองอ่างทอง พื้นที่เกิดเหตุ
เปิดปากเล่าปมฆ่า ถูกหลอกให้รัก จบได้ฝ่ายหญิงยังไม่เลิกกับสามี
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
เบื้องต้น นายบอย ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง
ก่อนหลบหนีมากบดานอยู่ที่ห้องเพื่อน ซึ่งเป็นห้องพักคนงาน
ยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.น้ำ ได้ประมาณ 3 เดือน ตอนที่รู้จักกัน
ฝ่ายหญิงบอกว่าเลิกกับสามีแล้ว เนื่องจากจับได้สามีนอกใจ
ตนกับฝ่ายหญิงจึงคบหากันมาเรื่อย ๆ จนตัวเองมารู้ความจริงว่า
ฝ่ายหญิงยังไม่เลิกกับสามี และมีการพูดคุยว่า หากเลือกทางสามี
ทั้งคู่ก็มาลดความสัมพันธ์เป็นเพียงคู่นอน แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ฝ่ายหญิงรู้ว่าตนเองมีคดีติดตัว
จึงใช้เรื่องนี้ในการข่มขู่เรื่อยมา และล่าสุดฝ่ายหญิงออกเงินกู้
แต่ไม่สามารถทวงเงินจากลูกหนี้ได้ ตนจึงไปทวงเงินให้
แต่พอฝ่ายหญิงรู้ก็ไม่พอใจ บอกว่าตนทำให้ชีวิตพัง จึงเป็นเหตุทะเลาะกัน
และพลั้งลงมือ อยากขอโทษครอบครัวน้องน้ำ ส่วนสาเหตุที่ปล่อยลมยางรถ
คิดว่าถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องไปทำงานเท่านั้น
พบคนร้ายมี 5 คดีติดตัว ก่อนก่อเหตุฆ่าเสมียนสาวอ่างทอง
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า นายบอย
มีหมายจับค้างเก่าจากศาลอาญากรุงเทพใต้ อีกหลายคดี เกี่ยวกับทางเพศ
หมิ่นประมาท ลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และความผิดเกี่ยวกับ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วย
ภายหลังครอบครัว น.ส.น้ำ
ทราบข่าวว่าตำรวจจับกุมตัว นายบอยได้ และเตรียมนำตัวมาทำแผน ทางญาติ ๆ
จึงพากันเดินทางมาที่ห้องเช่าที่เกิดเหตุ เพื่อมาดูหน้าคนร้ายกัน
โดยตำรวจวางกำลังไว้ดูแลความปลอดภัยแน่นหนา
แต่ปรากฏว่าไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาลงมาจากรถแต่อย่างใด ญาติ ๆ
จึงเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่จนทราบว่า ได้ยกเลิกการทำแผน
เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัย
ปรากฏว่าจากเหตุดังกล่าว
ส่งผลให้พี่สาวของน้ำ รวมทั้งญาติ ๆ ต่างโวยวาย
เนื่องจากต้องการมาดูหน้าผู้ต้องหา และอยากให้ไปขอขมาศพ ส่วน นายภัทกานต์
อายุ 42 ปี สามีน้องน้ำ ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับตำรวจ
บอกว่าอยากให้ผู้ต้องหาเดินทางมาขอขมาศพ และอยากให้ลูก ๆ
เห็นหน้าคนที่ฆ่าแม่อย่างเหี้ยมโหด
ซึ่งได้ยินคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเป็นการแก้ตัวโยนความผิดให้กับคนตาย
เพราะคนตายไปแล้วไม่สามารถพูดได้
อยากถามว่ารักน้องน้ำแล้วฆ่าน้องอย่างโหดเหี้ยมได้อย่างไร
ที่ผ่านมาตนทำงานอยู่ที่ชลบุรี น้องน้ำเคยเล่าเรื่องนายบอยให้ฟังบ้าง
แต่บอกว่าเลิกกันไปแล้ว มารู้อีกทีตอนน้องน้ำถูกแทงเสียชีวิตแล้ว
บอย มือฆ่าโหด แจงไม่ไปขอขมาหน้าศพหวั่นถูกรุมทำร้าย – นายจ้างเผยเป็นคนอ่อนน้อม
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง นำตัวนายบอย
ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอ่างทอง โดยบอย กล่าวว่า
เมื่อคืนนอนอยู่ในห้องขังหลับไม่สนิท เพราะจะเห็นภาพของน้องน้ำปรากฏขึ้นมา
ส่วนที่ญาติของน้องน้ำ ต้องการจะให้ตนไปขอขมาต่อหน้าศพนั้น
ตนคิดว่าถ้าไปก็อาจจะโดนรุมทำร้าย เนื่องจากญาติยังโกรธแค้นตนอยู่
ถ้าจะขอขมาอาจขอขมาต่อหน้ารูปภาพก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปที่หน้าศพ
ซึ่งการที่ญาติยังโกรธแค้นตนก็พอเข้าใจ จึงได้ขอโทษไปแล้ว
ด้าน เจ๊องุ่น เจ้าของแพปลา นายจ้างของบอย เดินทางมาเยี่ยมนายบอย
โดยมีการยื่นเงิน 500 บาท ให้กับบอย ก่อนถูกนำตัวออกไป โดย เจ๊องุ่น
เล่าว่า บอยทำงานที่แพปลาได้ประมาณ 3 ปี เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
เวลาให้อะไรก็จะนอบน้อมขอบคุณเสมอ อยู่ด้วยกันก็รักเหมือนลูกเหมือนหลาน
กินข้าวหม้อเดียวกัน บางทีของเหลือบอยก็ไม่รังเกียจ
และบอยก็ไม่เคยทำอะไรให้เดือดร้อน จึงไว้ใจให้ทำทุกอย่าง
ที่ตนมาเยี่ยมเพราะญาติพี่น้องของบอยมาไม่ได้ พ่อเขาตาบอด
แม่ก็เดินทางลำบาก ซึ่งตนก็ห่วงเรื่องที่บอยสายตาสั้น
ตนก็เพียงอยากให้กำลังใจบอย และให้ทำตัวดี ๆ จะได้ออกมาใช้ชีวิตต่อไป
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์