เจ้าของบ้านสะดุ้ง งีบหลับกลางวันอยู่ดี ๆ มีเสียงเคาะปริศนาดังข้างหน้าต่าง ตื่นมาเจอแขกไม่ได้รับเชิญสุดสะพรึง
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป และเดอะสเตรตส์ไทมส์ เผยว่า เกิดเหตุการณ์น่าตกตะลึงกับผู้พักอาศัยรายหนึ่งในบล็อก 925 ย่านจูหร่ง เวสต์ โซนที่อยู่เขตตะวันตกของสิงคโปร์ เมื่อเขาต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคันในช่วงงีบพักกลางวัน เหตุเพราะได้ยิน “เสียงเคาะปริศนา” ตรงบริเวณหน้าต่าง ก่อนที่จะต้องตื่นเต็มตา เมื่อได้เจอกับต้นตอของเสียงนั้น
นายมุคลิส วัย 54 ปี อาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของที่พักแห่งนี้ เผยกับรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ตอนนั้นเขากำลังงีบหลับอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น อยู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเคาะบางอย่าง ดังมาจากตรงหน้าต่างห้องนอนใหญ่ของเขา ก่อนที่เขาจะพบว่า มีงูเหลือมตัวหนึ่งกำลังเลื้อยไปมาอยู่ที่ด้านนอกบานหน้าต่าง หัวของมันชนเข้ากับหน้าต่างจนเกิดเสียงดัง เขาจึงพยายามเคาะหน้าต่างเพื่อให้งูหนีไป
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
มุคลิส เผยถึงความน่าตกใจว่า ก่อนหน้านั้นเขาเปิดหน้าต่างห้องนอนและห้องครัวเอาไว้ โดยไม่คาดคิดว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยม แต่โชคดีที่ก่อนหน้านั้น มีคนที่เดินผ่านด้านล่างแล้วสังเกตเห็นงูตัวนี้อยู่ใกล้กับห้องของเขา จึงรีบขึ้นมาแจ้งให้เขาทราบ ทำให้เขาไปปิดหน้าต่างที่พักได้ทัน และหลังจากนั้นเพียงแป๊บเดียว งูตัวนี้ก็โผล่มาตามที่ปรากฏ
“มันมาเคาะกระจกหน้าต่างของฉัน ฉันคิดว่าถ้าหน้าต่างเปิดอยู่ งูคงเข้ามาในห้องฉันแล้ว” มุคลิส กล่าว
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
อย่างไรก็ตาม งูเหลือมตัวนี้ไม่ยอมออกไปไหน
มันเลื้อยขดตัวอยู่ที่บริเวณคอมเพรสเซอร์แอร์ใต้หน้าต่างประมาณ 10 นาที
ทางผู้พักอาศัยจึงได้แจ้งไปยังศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับสัตว์ของท้องถิ่นให้เข้ามาช่วย
จากนั้นประมาณ 20 นาทีต่อมา ก็มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาถึง
และปีนบันได้ขึ้นไปจับงูได้สำเร็จ ในขณะที่ด้านล่างมีผู้คนกว่า 50 ชีวิต
พากันเข้าไปมุงดูและบันทึกภาพ
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
ทางเจ้าหน้าที่เผยว่า
งูเหลือมตัวนี้มีความยาวประมาณ 3.5 เมตร จึงทำให้การจับมีความยากเล็กน้อย
ต้องใช้การหลอกล่อและอาศัยเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้คาดว่า
งูเหลือมตัวนี้น่าจะมีอาการตกใจกลัวจากคนและนกที่อยู่ในบริเวณนั้น
จึงพยายามเลื้อยขึ้นไปหาที่หลบภัย โดยหลังจากนี้จะจัดการฝังไมโครชิป
ก่อนจะปล่อยกลับสู่ธรรมชาติไป
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
ภาพจาก Animal Concerns Research and Education Society (Acres)
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership, The Straits Times