เปิดแชตสุดท้ายสาวตายหลังหัวหน้าไม่ให้ลา คุยกับเพื่อนถึงอาการป่วย ยังคงเหนื่อย ด้านบริษัท โพสต์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนสามีคาใจ ผิดกฎหมายไหม
ภาพจาก นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์
จากกรณีที่พนักงานวัย 30 ปี หัวหน้าไม่ให้ลาป่วยเพิ่ม ต้องฝืนสังขารมาทำงาน สุดท้ายเสียชีวิตเพราะไปหาหมอไม่ทัน เบื้องต้นหมอวินิจฉัยว่า ลำไส้เน่า ส่วนทางครอบครัวไม่พอใจ เพราะสูญเสียเสาหลัก
อ่านข่าว : สามีเปิดใจ ภรรยาป่วยหนักแต่หัวหน้าไม่ให้ลา ก่อนทรุดดับสลด ลั่นอยากรู้เหตุผลที่ห้าม
วันที่ 18 กันยายน 2567 เฟซบุ๊ก นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์ รายงานว่า เมย์ สุกัญญา สาววัย 30 ปี ผู้เสียชีวิต ประวัติการทำงานไม่เคยลา มีลูกสาว 2 คน แต่เมื่อป่วยแล้วหัวหน้าไม่ให้ลาเพิ่ม ก็ยอมกลับมาทำงานเพราะกลัวถูกไล่ออก
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เธอรู้สึกไม่สบาย จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาล และนอนรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 5-9 กันยายน เมื่อออกจากโรงพยาบาล อาการไม่ดีขึ้น ขอลางานต่อวันที่ 10-12 กันยายน และช่วงเย็นของวันที่ 12 กันยายน ก็ขอลางานต่ออีกในวันถัดไป หัวหน้ามองว่า ต้องมีใบรับรองแพทย์ถึงลาได้ เธอกลัวถูกไล่ออกจึงมาทำงานวันที่ 13 กันยายน แต่ทำงานไปได้ 20 นาที ก็ต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที
ทั้งนี้ หมอแจ้งอาการของผู้ตายไม่ตรงกันทั้ง 4 ครั้ง เริ่มจากรอบแรกวินิจฉัยว่า ลำไส้ใหญ่อักเสบ กระทั่งเข้าสู่เช้าวันที่ 15 กันยายน ก็บอกว่า ปีกมดลูกอักเสบ ตอนเย็นวันนั้นบอกมีน้ำหนองในช่องท้อง ตอนค่ำบอกลำไส้เน่าต้องผ่าตัดคืนนั้นทันทีจนเสียชีวิต
ทางญาติข้องใจที่ทำงานและหมอวินิจฉัยมาก เบื้องต้นทางที่ทำงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีและกำลังสอบสวนเรื่องนี้ ส่วนพิธีฌาปนกิจ จะทำพิธีที่วัดวาลุการาม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย วันที่ 19 กันยายน 2567
เปิดแชตสุดท้ายคุยกับเพื่อน
เมื่อเปิดแชตสุดท้ายคืนวันที่
12 กันยายน ก่อนที่จะมาทำงานวันเกิดเหตุ เมย์ สุกัญญาเล่าถึงอาการว่า
ตอนที่รักษาตัวช่วงต้นเดือนกันยายนจนต้องนอนโรงพยาบาล ตอนนั้น ไม่มีแรง
กินไม่ได้ อ้วกอย่างเดียว ส่วนตอนนี้พอไหวแล้ว แต่ยังคงมีอาการเหนื่อย
ซึ่งอยากจะลาป่วยต่อเหมือนกัน แต่หัวหน้าไม่ให้ลา เนื่องจากลาหยุดเยอะแล้ว
เรื่องเด่นเย็นนี้
รายงานว่า สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา
ภรรยาปวดท้องรุนแรง จึงไปหาหมอต้องนอนพัก 5 วัน ตอนแรกวินิจฉัยว่าเป็นนิ่ว
แล้วเปลี่ยนคำวินิจฉัยเป็น ลำไส้ใหญ่อักเสบ ให้ยามารับประทาน
อาการดีขึ้นบ้างเล็กน้อย จึงไปทำงานวันที่ 13 กันยายน
สำหรับเหตุผลที่ไปทำงาน
คือ ร่างกายยังคงไปทำงานไหว บวกกับหัวหน้าไม่ให้ลาแล้ว กระทั่ง 3
ทุ่มวันนั้น เพื่อนของภรรยาบอกว่า ภรรยาหน้าซีด ตัวเย็น
รีบพาตัวส่งโรงพยาบาล สุดท้ายหมอตรวจพบว่า เป็นหนองในช่องท้อง
ต้องผ่าตัดเปิดแผลให้กว้างเพื่อระบายหนองออก และยกลำไส้กับล้างท้อง
วันที่
14 กันยายน ช่วง 3 ทุ่ม หมอโทรศัพท์มาบอกว่า ต้องรีบผ่าตัดคืนนี้
ถ้าไม่ผ่าตัดอาจจะเสี่ยงติดเชื้อจนเสียชีวิตได้ แต่ภรรยาอาการโคม่า
ต้องปั๊มหัวใจ ช่วยไม่ได้จนเสียชีวิต
ไทยพีบีเอส
รายงานว่า นายพัฒนชาติ ชุมทอง สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรปราการ
เปิดเผยว่า ถ้าลูกจ้างลาติดต่อกันเกิน 3 วัน
ตามกฎหมายแล้วนายจ้างอาจเรียกใบรับรองแพทย์ได้
แต่ถ้าลาไม่ถึงแล้วมีการเรียกใบรับรองแพทย์ ลูกจ้างจะไม่ให้ก็ได้
ภาพจาก นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์
ภาพจาก นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์
ภาพจาก นิวส์ชลบุรี-ระยอง ออนไลน์
บริษัท ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ รับเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เฟซบุ๊ก Delta Electronics Thailand บริษัทต้นสังกัด มีการโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวว่าเดลต้า อีเลคโทรนิคส์
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของพนักงานของเราและพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวและเพื่อนร่วมงานอย่างเต็มที่
เดลต้า
อีเลคโทรนิคส์ ขอร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของเพื่อนร่วมงานของเรา
และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว เพื่อน
และเพื่อนร่วมงานที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้
“สำหรับเดลต้า อีเลคโทรนิคส์
พนักงานทุกคนคือรากฐานแห่งความสำเร็จของเรา
เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการสูญเสียในครั้งนี้
สิ่งที่เราให้ความสำคัญและทำเป็นอันดับแรกคือการให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ครอบครัวของพนักงานในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้” นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทยกล่าว
ทั้งนี้
บริษัทฯ
ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยเรายังคงยึดมั่นในความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม หากทางบริษัทฯ
มีข้อมูลเพิ่มเติม
เราจะแจ้งรายละเอียดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบอีกครั้ง
เนื่องจากขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด
บริษัทฯ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้ ทางบริษัทเดลต้า
อีเลคโทรนิคส์
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความเข้าใจในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนนี้
และขอความกรุณาติดตามคำชี้แจงและรายละเอียดจากบริษัทฯ ในครั้งต่อไป ทั้งนี้
ขอความกรุณาทุกท่านเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวผู้สูญเสียมา ณ
ที่นี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส