“พันธุ์อาจ” ฝากการบ้าน “อุ๊งอิ๊งค์” มองอนาคต อย่ามองการเมืองระยะสั้น แนะทำ ครม.เศรษฐกิจ-ปฏิรูปกระทรวง-กระจายโอกาส
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ พรรคประชาชน กล่าวว่า ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับที่มาของ “ครม. ครอบครัว” และความท้าทายอื่น ๆ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชัน สิ่งแวดล้อม และศรัทธาของประชาชน แต่ก็ยังมีความคาดหวังจากคนรุ่นใหม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถนำพาประเทศไปข้างหน้าได้ จึงขอฝากการบ้านไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 3 ข้อ เพื่ออนาคตประเทศไทยในระยะยาว ได้แก่
เตรียมความพร้อมให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในระยะกลาง: ครม. ต้องมีวิสัยทัศน์ ปรับโครงสร้างกระทรวงรัฐบาลชุดนี้ยังมีเวลาในการบริหารประเทศอีกยาวไกล จึงควรคำนึ
ถึงอนาคตของประเทศด้วย ประเทศไทยกำลังจะไม่มีที่ยืนใน “ห่วงโซ่อุปทานโลก” หรือ Global Value Chain ดังนั้น จึงจำเป็นต้องระดมสรรพกำลังตั้ง “ครม. แห่งเศรษฐกิจอนาคต” ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีอนาคตในเวทีโลก
สิ่งสำคัญคือ ครม. ต้องมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล และกล้าที่จะตัดสินใจเพื่ออนาคตของประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่คำนึงถึงความได้เปรียบทางการเมืองระยะสั้นเท่านั้น จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างกระทรวงให้สอดรับกับความท้าทายใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ เราสามารถเรียนรู้จากต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ที่จัดตั้ง Department for Energy Security and Net Zero เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือเกาหลีใต้ ที่มี Ministry of SMEs and Startups เพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่
ปฏิรูปกระทรวงสู่อนาคต: สร้าง “คนไทย คนเก่ง คนของโลก”
ต้องเตรียมคนไทยให้พร้อมรับมือกับอนาคต ทั้งในด้านอาชีพ ทักษะ และคุณภาพชีวิต กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคนและสังคม ทั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ เช่น ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานในยุค Robotic and AI ความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร และการขับเคลื่อนชาติไทยด้วยองค์ความรู้อย่างเข้มข้น หากไม่สามารถปฏิรูปกระทรวงเหล่านี้ได้ ประเทศไทยจะตามหลังชาติอื่น ๆ ไปตลอดกาล
การปฏิรูปนี้ ควรเริ่มจากการปฏิรูปโครงสร้างระบบราชการ เพื่อลดความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ครม. ไม่ควรมีการบริหารแบบโควต้าตามพรรคการเมือง แต่ควรผสานประเด็นทำงานเพื่อ “คนไทย” อย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้าง “คนไทย คนเก่ง คนของโลก” ที่มีความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
ลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสและการพัฒนาในเมืองต่าง ๆ นอก กทม.: กระจายโอกาส ไม่ใช่รัฐรวมศูนย์
ทำลายสิ่งที่คนไทยพูดกันมาตลอดว่า “รวยกระจุก จนกระจาย” คนต่างจังหวัดยังคงอพยพเข้ามาหาชีวิตที่ดีกว่าใน กทม. แบบนี้ประเทศไม่ได้เปลี่ยนไปเลย หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ได้ ประเทศไทยจะยังคงติดอยู่ในกับดักของการพัฒนาที่ไม่เท่าเทียม สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นรากเหง้าแห่งปัญหาในท้องถิ่นที่เรื่อรังมานาน และยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องไม่ทำให้เกิด “รัฐรวมศูนย์” แต่เน้น “กระจายโอกาส” สู่เมืองอื่น ๆ อย่างแท้จริง
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวทิ้งท้ายว่า งานระยะยาวเหล่านี้ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ มิเช่นนั้นประเทศไทยจะไม่มีอนาคต หวังว่ารัฐบาลจะสามารถเติมเต็มประเด็นเร่งด่วนระยะสั้นที่หลายคนกล่าวไปแล้ว และนำพาประเทศไทยไปไกลกว่านี้ให้ได้ โดยการลงมือทำงานระยะยาวตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทย
Source link