คนในคลิปเล่าเอง ต้นเรื่องของศึก #สุขุมวิท11 กะเทยปินส์หาเรื่องกะเทยไทย เปิดกียั่วยุ ไม่กลัวกฎหมาย ชี้คนรุมตนเป็นสิบ แต่โผล่ สน. แค่ 4 ที่เหลือหนีกลับประเทศ
จากกรณีเดือด กะเทยไทยนัดรวมตัวกู้ศักดิ์ศรีหลังมีเหตุกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายกะเทยไทย จนเกิดความวุ่นวายในซอยสุขุมวิท 11 ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าว : เดือดข้ามคืน สุขุมวิท 11 ทัพกะเทยไทยรวมตัวกู้ศักดิ์ศรี สางแค้นกะเทยปินส์ รุมตบ
อ่านข่าว : เปิดไทม์ไลน์ วันกะเทยผ่านศึก เดือดสนั่น สุขุมวิท 11 ตร. ชี้ต้นตอเกิดจากอะไร
ล่าสุด (5 มีนาคม 2567) น้องวาย คนสวมชุดสีแดง ซึ่งถูกกะเทยฟิลิปปินส์ชี้หน้าด่าในคลิปต้นเรื่อง ออกมาเปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงที่มาที่ไปผ่านรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยเผยว่าตนและกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหน้า โดยขณะที่ตนเดินออกจากสถานบันเทิง กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ได้เข้ามาหาเรื่อง บอกว่ามองหน้าเขาทำไม อยากไฟต์กับเขาเหรอ และท้าทายให้ลงมือตีเขา แต่พวกตนไม่ได้ตอบโต้ จากนั้นจึงไปแจ้งความที่ สน. ก่อนที่จะแยกย้ายกัน
ยันถูกหาเรื่อง-เปิดอวัยวะเพศโชว์ ทั้งที่เพิ่งกลับจาก สน.
น้องวายเผยว่า ตอนกลับจาก สน. พวกตนได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยมาหลายครั้งแล้วไม่เคยเจอกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์มาก่อน แต่ครั้งนี้พวกนั้นมาดักรอและท้าทายตามที่ปรากฏในคลิป มีการบอกว่า ฟักยู ฟักยู รวมถึงเปิดอวัยวะเพศโชว์
จากที่เห็นในคลิป ฝั่งฟิลิปปินส์มี 3 คน แต่หลังกล้องมีอีกเป็นสิบ ขณะที่ฝ่ายตนมีกัน 2 คน ตนจึงโทร. ตามพี่ให้มาช่วย ซึ่งทางฝั่งคู่กรณียังมีการปล้นเงินรุ่นพี่ที่มาช่วยด้วย เอาไปทั้งกระเป๋า โดยเงินหายไป 2,000 บาท ส่วนกระเป๋าก็ต้องไปตามกลับมาเอง
เมื่อถามว่าเหตุใดฝั่งกะเทยฟิลิปปินส์ถึงมาด่าตอนในตอนแรกนั้น น้องวายชี้ว่า ฝ่ายนั้นชอบเข้ามาหาเรื่อง เขาชอบมีปัญหากับพวกตน โดยคิดว่าตัวเองมีพวก มีจำนวนเยอะแล้วจะด่าจะหาเรื่องยังไงก็ได้
ในตอนที่พวกตนเดินออกมาจากร้านอาหาร ก็ได้เดินสวนกับกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ในซอยสุขุมวิท 11 พวกตนเห็นจึงแวะคุยว่าทำไมถึงทำกับน้องเราแบบนี้ แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมคุย และเข้ามาใส่พวกตนเลย ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้น ฝั่งตนมีกันอยู่ 6 คน คือตนและเพื่อน กับรุ่นพี่ที่ตามมาช่วย ขณะที่ฝั่งนั้นมีกันสิบกว่าคน เรียกว่าพวกนั้น 4 คนรุมพวกตน 1 คน
จากนั้นมีพี่แท็กซี่เข้ามาช่วยห้าม ตอนที่แยกย้ายฝั่งกะเทยฟิลิปปินส์ยังบอกว่าฟักยูไทยแลนด์ ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวกฎหมายใด ๆ มองว่ากฎหมายทำอะไรพวกนั้นไม่ได้ ซึ่งตนมีคลิปเสียงและหลักฐานทุกอย่าง ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ร้านอาหาร ตอนที่ถูกรุมตี และตอนที่ตีกันเสร็จ
เรื่องบานปลายยันกะเทยรวมตัว กลายเป็นวันกะเทยผ่านศึก
น้องวาย เผยว่า ในเรื่องการรวมตัวหลังจากนั้นตนไม่ทราบเรื่อง อาจจะเป็นพวกพี่กะเทยที่เห็นคลิปแล้วเกิดความสงสาร เลยมารวมตัวกัน เราไม่ได้เป็นคนระดมพล แต่ยอมรับว่าตนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยตอนประมาณ 20.00 – 22.00 น. โดยตอนนั้นเรามายืนรอเขา สื่อสารผ่านตำรวจว่าต้องการจะพูดคุยด้วยว่ามารุมกะเทยไทยทำไม แต่เมื่อเห็นว่าน่าจะคุยกันไม่ลงตัว ตนจึงมารออีกฝ่ายที่ สน.ลุมพินี
แต่ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกะเทยฟิลิปปินส์ถูกพามาที่ สน.ลุมพินี แค่ 4 คน โดยมีคนที่เป็นประเด็นแค่ 2 คน อีก 2 คนไม่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ตอนรุมทำร้ายพวกตนมีกันอยู่เป็นสิบ โดยทราบว่าคนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินเพื่อจะเดินทางกลับฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ฝ่ายคู่กรณียังอ้างว่าแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ไม่สามารถระงับการเดินทางของพวกเขาได้ ตนจึงอยากถามเช่นกันว่า หากเป็นคดีปล้นทรัพย์ที่ฝ่ายนั้นปล้นเงินรุ่นพี่ตนไป จะสามารถระงับการออกนอกประเทศได้หรือไม่
น้องวายยังชี้ว่า สาเหตุที่กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์กลับประเทศ ก็เพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น หากสมมติไม่เกิดเรื่องนี้ก็คงจะอยู่และหาเรื่องกะเทยไทยไปเรื่อย ๆ เพราะพวกนั้นมีกันเป็นแก๊ง อยู่กัน 20 กว่าคนขึ้นไปตอนที่ทำงาน ที่กลับประเทศไปเมื่อคืนก็น่าจะไปกันยกแก๊ง
ทั้งนี้ ในส่วนของเรานั้นให้ปากคำกับตำรวจเสร็จแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้เจอคู่กรณีที่แยกกันให้การ จึงไม่ทราบเช่นกันว่าฝ่ายนั้นยังอยู่ที่ สน.ลุมพินี หรือไม่ ขณะเดียวกันตนต้องขอบคุณพี่ ๆ และแม่ ๆ ทุกคนที่มาช่วยในวันนั้น ขอบคุณพลังกะเทยไทยจริง ๆ
คนขับแท็กซี่เล่าบ้าง ยันแก๊งกะเทยปินส์ หาเรื่องกะเทยไทยประจำ
นอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์คนขับแท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าเห็นกะเทยฟิลิปปินส์ยั่วโมโหกะเทยไทยประจำ ที่ฝ่ายมาก็มักจะมีแต่ฝั่งฟิลิปปินส์ที่ยั่วโมโหก่อน ไม่เคยเห็นฝั่งไทยไปทำร้ายเขากลับ ในวันที่เกิดเหตุตอนแรกที่ฝั่งกะเทยไทยถูกรุมทำร้าย เราก็เข้าไปช่วยห้าม พบว่าฝั่งฟิลิปปินส์ส่งเสียงโวยวาย แต่พูดเป็นภาษาอังกฤษ จึงฟังไม่ออก ส่วนคนไทยไม่ได้โวยวายกลับอะไร
ยังมีคนขับแท็กซี่อีกรายชี้ว่า กะเทยฟิลิปปินส์กลุ่มนี้มีจำนวนเยอะ เพิ่งมาหากินพื้นที่นี้ได้ไม่ถึงปี ช่วงปีใหม่และมากันเรื่อย ๆ คล้าย ๆ เป็นการบอกต่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าตอนมาก็สภาพเป็นผู้ชาย แต่มาทำศัลยกรรมทำนมที่นี่ กลายเป็นผู้หญิง แล้วก็เริ่มหาลูกค้า เมื่อพบเห็นกะเทยไทย กะเทยฟิลิปปินส์ก็มักจะหาเรื่องด้วยการยกขาใส่ เห็นแบบนี้กันประจำ ตอนมีแขกมาถามเราว่าคนกลุ่มนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พอเราบอกว่าเลดี้บอย ก็เข้ามาต่อว่าตน ว่าไปบอกลูกค้าทำไม แถมยังถ่ายรูปตนโดยอ้างว่าจะไปแจ้งตำรวจ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรรมกรข่าว คุยนอกจอ