อินฟลูเอนเซอร์หาทำ จัดฉากไลฟ์โดนปาไข่ เพราะยั่วผัวชาวบ้าน ให้สัมภาษณ์สื่อจริงจัง สุดท้ายโป๊ะหนัก ไต้หวันเดือดสั่งแบนทันที ทำภาพลักษณ์เสื่อมเสีย
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า KiaraaKitty อินฟลูเอนเซอร์สาวสาย 18+ ชาวสิงคโปร์ ถูกทางการไต้หวันสั่งแบนห้ามเข้าแผ่นดิน หลังไลฟตรีมภาพขณะมีหญิงคนหนึ่งนำไข่มาปาใส่ตัวเอง พร้อมกล่าวหาว่าเธอไปยั่วยวนสามี แถมยังไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าวท้องถิ่นเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนโป๊ะแตกว่าทุกอย่างเป็นแค่การจัดฉากเพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้น
โดยจากแถลงการณ์ของ ตม.ไต้หวัน ระบุว่า KiaraaKitty เป็นผู้วางแผนจัดฉากการโจมตีดังกล่าว ด้วยการให้ผู้ช่วยของตัวเองซึ่งเป็นผู้ชาย แต่งตัวเป็นผู้หญิง มาโจมตีเธอขณะอยู่ในเกาสง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เพื่อดึงดูดความสนใจ จากการสอบสวนของตำรวจพบว่าบุคคลทั้งคู่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม จากการปล่อยข่าวลือและทำลายความสงบสุขของประชาชน
สำหรับโทษสูงสุดนั้นคือการปฏิเสธห้ามเข้าไต้หวันนาน 5 ปี อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุชัดว่าอินฟลูเอนเซอร์สาวจะถูกสั่งแบนนานกี่ปี โดยช่วงเวลาที่ถูกทางตำรวจสอบสวน อินฟลูเอนเซอร์สาวและผู้ช่วยได้ออกจากไต้หวันไปแล้ว
เกิดอะไรขึ้น ?์
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ขณะที่ KiaraaKitty ทำการไลฟ์สตรีมอยู่บนท้องถนนในเมืองเกาสง อยู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดกระโปรงสีแดงออกมาปาไข่ใส่เธอ ระหว่างที่หญิงสาวกรีดร้อง ผู้ก่อเหตุก็กล่าวหาว่าหญิงสาวมายั่วยวนสามีของตัวเอง พร้อมเตือนให้เธออยู่ห่างจากเขา ซึ่งทาง KiaraaKitty ปฏิเสธไม่รู้ว่าสามีของอีกฝ่ายเป็นใคร
จนเมื่อบุคคลดังกล่าวเดินออกไป KiaraaKitty
จึงกล่าวสรุปว่าการโจมตีครั้งนี้น่าจะเป็นผลจากโพสต์ของเธอบน OnlyFans
นั่นเอง
ในวันต่อมา (10 กุมภาพันธ์) เธอยังบอกกับนักข่าวไต้หวันว่า
ได้รายงานเหตุที่เกิดขึ้นกับทางตำรวจแล้ว
แต่จากนั้นตำรวจเกาสงกลับให้ข้อมูลขัดกัน ชี้ว่าไม่มีคดีดังกล่าว
และอินฟลูเอนเซอร์สาวก็ไม่ได้แจ้งเรื่องกับทางตำรวจแต่อย่างใด
กระทั่งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ KiaraaKitty
จึงออกมายอมรับผ่านการไลฟ์สตรีมว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงการจัดฉากเท่านั้น
พร้อมกล่าวขอโทษต่อการกระทำของตนเอง
หลังถูกตำรวจเกาสงขอให้เธอออกมาขอโทษต่อสาธารณะ
เนื่องจากเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของเมือง
ทั้งนี้ ตม.ไต้หวัน ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า
ชาวต่างชาติเป็นที่ต้อนรับในไต้หวัน
แต่จะไม่มีการอนุญาตให้กระทำกิจกรรมอันละเมิดกฎหมาย
หากพบว่ามีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการและมีบทลงโทษอย่างหนัก