In Thailand

เหลี่ยมกว่าโจร! นัดคุยสินสอด จู่ๆ ฝ่ายชายใส่กุญแจมือ “ว่าที่เจ้าสาว” ส่งเข้าตารางยกครัว

เหลี่ยมกว่าโจร! นัดคุยสินสอด จู่ๆ ฝ่ายชายใส่กุญแจมือ “ว่าที่เจ้าสาว” ส่งเข้าตารางยกครัว
Written by Thailand News

 พ่อเจ้าบ่าวรู้แล้ว ว่าที่สะใภ้คือ 18 มงกุฎ ตั้งใจหลอกสินสอด เจอซ้อนแผนจับเข้าตาราง

ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์สุดอลเวงนี้เกิดขึ้นในปี 2019 ที่มณฑลเสฉวน  ประเทศจีน เมื่อครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าว จับครอบครัวว่าที่เจ้าสาวใส่กุญแจมือส่งตำรวจ ระหว่างนัดแนะกันมาคุยเรื่องสินสอด ยิ่งมีการเปิดเผยรายละเอียดเบื้องหลัง ยิ่งสร้างความตกใจให้สาธารณชนอย่างมาก

ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า พวกเขาสังเกตเห็นกลุ่มคนแปลกหน้ามาปรากฏตัวในหมู่บ้าน เมื่อสอบถามก็ทราบว่าครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าวได้เดินทางมาจากในเมือง เพื่อพบปะครอบครัวว่าที่เจ้าสาว หารือเกี่ยวกับบุตรทั้งสองคนที่กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ระหว่างนั้น จู่ๆ ครอบครัวของฝ่ายชายก็ดึงกุญแจมือออกมา ล็อกตัวทั้งครอบครัวของฝ่ายหญิงเอาไว้ โดยไม่ปล่อยให้ใครรอดไปแม้แค่คนเดียว

เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ครอบครัวว่าที่เจ้าสาวและคนรอบข้างทั้งหมดตกตะลึง แต่ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรองอะไรทั้งครอบครัวก็ถูกพาขึ้นรถ และนำตัวส่งสถานีตำรวจทันทีหลังจากนั้น เพราะแท้จริงแล้ววันอันแสนสุขของทั้งสองครอบครัว คือการตามล่า “อาชญากร”

หลังจากกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น ตำรวจก็ประกาศความจริงที่ทำให้หลายคนตกใจ ปรากฎว่าภายใต้หน้ากาก”ครอบครัวว่าที่เจ้าสาว” เบื้องหลังคือระบบการฉ้อโกงแบบมืออาชีพ ได้เงินไปแล้วมากกว่า 500,000 หยวน (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) และทรัพย์สินล้ำค่าอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

ที่น่าสนใจคือองค์กรนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่ระดับและขนาดของการฉ้อโกงกลับดูยิ่งใหญ่มาก พวกเขามุ่งกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้สูงอายุในช่วง 60 กว่าปี ซึ่งลูกชายยังไม่ได้แต่งงาน ใช้ประโยชน์จากความคาดหวังที่จะมีลูกสะใภ้และหลานๆ เพื่อแนะนำหญิงสาวที่ดูมีศักยภาพ ล่อครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าวให้ติดกับดัก เพื่อขูดรีดเงินทอง

นายหลิว อายุ 60 ปี เป็นคนแรกที่รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากลูกชายของเขาอายุ 30 กว่าแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน เขาจึงใจร้อนมากจนต้องขอความช่วยเหลือจากแม่สื่อ แต่พยายามก็ยังล้มเหลว 7-8 ครั้ง ในตอนที่เขากำลังจะยอมแพ้นั้นเอง มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแนะนำให้เขารู้จักกับหลานสาวจากชนบทของเธอ

บุคคลนี้บอกกับนายหลิวว่า ครอบครัวหญิงสาวที่ชนบทไม่ต้องการสินสอดจำนวนมาก หรืองานแต่งใหญ่โต พวกเขาเพียงแค่ต้องการให้ปฏิบัติตามขั้นตอนแบบดั้งเดิมบางอย่าง เช่น นัดหมายพูดคุยสองครอบครัว การหมั้นหมาย และพิธีรับตัวเจ้าสาวนายหลิวได้ยินดังนั้นก็รีบตามแม่สื่อเดินทางกลับไปพบ “ว่าที่ลูกสะใภ้” ทันที  หลังจากพูดคุยแล้วยิ่งรู้สึกถูกใจ เขาจึงมอบอั่งเปาให้กับเธอทันที 600 หยวน (ประมาณ 3,000 บาท)

หลังจากนั้นก็รีบบังคับลูกชายซึ่งทำงานอยู่ห่างไกลให้กลับบ้านทันที ก่อนส่งตัวไปนัดบอดกับหญิงสาวคนดังกล่าว และหลังจากนั้นก็ยังให้ทั้งคู่นัดพบกันอีกหลายครั้ง ทั้งนี้ เพราะต้องการทำให้หญิงสาวพอใจ นายหลิวจึงให้เงินว่าที่ลูกสะใภ้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งซื้อของขวัญให้เธอด้วย การนัดพบแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 5,000 หยวน (ประมาณ 2.5 หมื่นบาท)

กระทั่งถึงวันที่เขาต้องไปพบครอบครัวฝ่ายหญิง แม่สื่อบอกให้นายหลิวเตรียมซองเงินนำโชคไปมอบให้กับครอบครัวของหญิงสาวตามประเพณีดั้งเดิม อย่างไรก็ดี เมื่อไปถึงกับทำเอาตกตะลึง เพราะมีคนในบ้านที่รอรับอั่งเปาเกือบ 20 คนอ้างเป็นญาติ ป้า ลุง แต่ละคนเฝ้ารอทั้งซองเงินและของขวัญ ดังนั้นจำนวนเงินเขาจะต้องจ่ายสำหรับการทักทายกันครั้งแรกนี้ มากกว่า25,000 หยวนเลยทีเดียว (ประมาณ 1.3 แสนบาท)

แม้จะต้องเสียเงินจำนวนมาก ทั้งที่ยังไม่ใช่งานสู่ขอด้วยซ้ำ แต่เป็นเพียงการพบกันเพื่อทำความรู้จักเท่านั้น หมายความว่าจากนี้ยังต้องเผชิญพิธีอื่นๆ ที่คงต้องควักเงินมากกว่านี้อีกมาก อย่างไรก็ตาม เพราะเขากำลังมีความสุขมากที่ลูกชายจะมีคู่ครองนายหลิวจึงไม่ตระหนักถึงความผิดปกตินี้ แต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเตรียมวางแผนการแต่งงานของลูกชายต่อไปอย่างมีความสุข

จนกระทั่งมีเพื่อนเก่าจากแดนไกลมาเยี่ยมนายหลิว และบอกว่าลูกชายเกือบจะแต่งงานแล้ว น่าเสียดายที่ครอบครัวของเจ้าสาวมีญาติเสียชีวิตพอดิบพอดี งานแต่งงานจึงต้องเลื่อนออกไป 2-3 ปี ลูกชายที่อายุ 35 ปีแล้ว ตอนนี้จึงต้องไปนัดบอดเพื่อหาคู่ใหม่ และเมื่อนายหลิวได้เห็นภาพหญิงสาวที่เกือบได้เป็นลูกสะใภ้ของเพื่อน เขาก็ต้องตื่นตกใจเพราะเธอเหมือนว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาทุกประการ

เพื่อนวัยชราทั้งสองจึงเริ่มพูดคุยกันอย่างจริงจังและหลังน้ำตาออกมา ก่อนที่นายหลิวจะตัดสินใจเข้ารายงานเรื่องทั้งหมดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากทำการสอบสวนก็ยืนยันว่านี่คือองค์กรฉ้อโกงมืออาชีพ คนกลุ่มนี้หลอกลวงและฉ้อโกงคนไปมากมาย

ดังนั้น ในวันที่นัดคุยกันของทั้งสองครอบครัว ตำรวจมณฑลเสฉวนจึงปลอมตัวเป็นคนในครอบครัวของนายหลิว และบุกเข้ารวบตัวครอบครัวว่าที่เจ้าสาวในตอนที่พวกเขาไม่ได้ระมัดระวัง สุดท้าย คนทั้งกลุ่มก็ยอมสารภาพว่าฉ้อฉลยักยอกทรัพย์สินของผู้อื่น รวมมากกว่า 500,000 หยวน (ประมาณ 2.5 ล้านบาท)  และต้องเผชิญกับโทษจำคุก 10 ปี 


Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »