In Thailand

ซัน ทวงคืนบ้านตัวเอง ปลดป้าย-พังกุญแจ ชัดนะว่าใครคือเจ้าของ ขึ้นป้ายใหม่จี๊ดใจเพื่อนบ้าน

ซัน ทวงคืนบ้านตัวเอง ปลดป้าย-พังกุญแจ ชัดนะว่าใครคือเจ้าของ ขึ้นป้ายใหม่จี๊ดใจเพื่อนบ้าน
Written by Thailand News

          ซัน พร้อมทีมกฎหมาย เข้าทวงบ้านคืน ลุยตัดกุญแจ ปลดป้ายขายไก่ทอด พร้อมติดไวนิลตัวโต ๆ ถึงเพื่อนบ้าน ฟ้องเรียกค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี




         
จากกรณี ซัน และ อาย หลานชายและหลานสะใภ้ของ “อากู๋เหมทัศน์” ได้ของขวัญแต่งงานจากอากู๋เหม เป็นทาวน์เฮ้าส์  2 ชั้น ในซอยรามอินทรา 58 เมื่อเดินทางมาดูบ้าน ปรากฏว่ามีคนเข้ามาอยู่อาศัย ต่อเติมบ้าน ด้านคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน อ้างว่าบ้านถูกปล่อยร้างนาน 30 ปี เข้ามาดูแลให้เฉย ๆ ไม่มีเจตนาบุกรุกหรือครอบครองปรปักษ์ พยายามติดต่อขอเช่ากับเจ้าของ แต่ติดต่อไม่ได้จึงเข้ามาดูแล แต่ต่อมาทั้งคู่กลับได้รับหมายฟ้องปรปักษ์บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปดูบ้าน พบมีป้ายมาติดหน้าบ้าน ซึ่งทำเป็นร้านขายไก่ทอด อีกทั้งมีป้ายโชว์ว่าได้รับการครอบครองปรปักษ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน และมีหลักฐานชัดว่าอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ไม่ถึง 10 ปีนั้น

อ่านข่าว : เปิดหลักฐาน เพื่อนบ้านยึดบ้านรอบ 2 ติดป้ายครอบครองปรปักษ์ ทนายเดชา ซัด ทำไมหน้าด้านขนาดนี้


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายภคิน หรือ ซัน พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ 
ทีมทนายความของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.โคกคราม
นำช่างกุญแจบริษัทเอกชน
มาทำการตัดกุญแจเพื่อเปิดประตูบ้านที่ถูกเพื่อนบ้านฟ้องครอบครองปรปักษ์
พร้อมปลดป้ายไวนิลขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ที่คู่กรณีนำมาแขวนไว้
ออกจากบริเวณหน้าบ้าน

          ก่อนจะมีการเข้าไปในบ้าน
ตำรวจได้ประกาศถามหาเจ้าของบ้าน ให้มาแสดงตัวก่อนตัดกุญแจ แต่ปรากฏว่า
ไม่มีผู้ใดมาแสดงตัว มีเพียง ซัน ที่เป็นผู้ถือโฉนด
มาแสดงตัวกับตำรวจเท่านั้น โดยในวันนี้ ซัน
ได้เตรียมที่นอนมาเข้าอยู่ภายในบ้านหลังนี้อีกด้วย

          นางมณีวรรณ์
กล่าวว่า วันนี้ตนได้พาเจ้าของบ้านตัวจริง ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก อากู๋เหม
เจ้าของบ้านดั้งเดิมที่เป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดิน
มาแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งได้มีการลงประจำวันเป็นหลักฐาน
ก่อนมาทวงคืนสิทธิ์จากผู้บุกรุก
โดยทางฝ่ายกฎหมายจะเก็บหลักฐานที่มีบุคคลนำมาไว้ในบ้าน เช่น
และอุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ที่นอน ออกจากบ้านทั้งหมด
และหลังจากวันนี้ หากมีการบุกรุกซ้ำอีก ก็สามารถเอาผิดได้อีก  

          จากการตรวจสอบในบ้านพบสิ่งที่ผิดสังเกตคือ
มีการนำที่นอน โซฟา  หม้อหุงข้าว และของใช้บางส่วนมาเก็บไว้
เหมือนเป็นการทำหลักฐานว่ามีการเข้ามาอยู่จริง
ทั้งที่บ้านหลังนี้ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้งาน
ส่วนข้อกฎหมายที่นำมาใช้ทวงคืนบ้าน คือข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์
และลักทรัพย์ โดยมีหลักฐานคือโฉนดที่ดินมาแทนกรรมสิทธิ์ในการทวงบ้านคืน

          ส่วนการต่อสู้คดีที่ถูกเพื่อนบ้านฟ้องครอบครองปรปักษ์
ทีมกฎหมายทนายเดชา มั่นใจว่า หลักฐานทาง Google street view
จะสามารถใช้ต่อสู้คดีในศาล ว่าคู่กรณีเพิ่งเข้ามาอยู่อาศัย
และนำของมาวางไว้เมื่อปี 2560  ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นบ้านปกติ
มีต้นไม้วางหน้าบ้าน แต่ไม่มีการเข้าอยู่จริง ไม่มีการมาพักอาศัยจริง ๆ
เป็นเพียงที่เก็บของเท่านั้น และในการฟ้องร้องทางคุณซัน
ก็จะฟ้องเรียกค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี จากทางคู่กรณีด้วย

          ด้าน
ซัน เปิดใจว่า ตนเองได้รับสิทธิ์จาก อากู๋ ให้เข้ามาดูแลบ้าน
เนื่องจากอากู๋ ตั้งใจยกบ้านให้เป็นของขวัญแต่งงาน วันนี้จึงนำหมอน ที่นอน
มาด้วย เพื่อใช้สำหรับหลับนอนที่บ้านในคืนนี้
ส่วนอนาคตหลังสู้คดีและชนะในชั้นศาลแล้ว
ยอมรับว่ามีสิทธิ์สูงที่จะขายบ้านหลังนี้ทิ้งไป
เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กับคู่กรณี ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น

          ทั้งนี้เจ้าของบ้านตัวจริง ได้นำไวนิลอันใหม่ที่เตรียมมา มาติดไว้ที่บริเวณประตูรั้วหน้าบ้าน ระบุข้อความว่า “พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใดใดทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย”


ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3




Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »