คนไทยเล่านาทีชุลมุน ผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินที่เชียงใหม่ ด้านคนทำเป็นวิศวกร เผยทำภารกิจลับ ถูกกลุ่มใต้ดินติดตาม หวั่นถูกขีปนาวุธลอบยิง
จากกรณีผู้โดยสารในเที่ยวบิน TG121 เส้นทาง เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ของสายการบินไทย ก่อเหตุเอะอะโวยวาย และเปิดประตูเครื่องบินระหว่างที่เครื่องบินเตรียมที่จะทำการวิ่งขึ้น ส่งผลให้เครื่องขึ้นออกจากรันเวย์ไม่ได้ เที่ยวบินอื่น ๆ จึงขึ้น-ลง สนามบินเชียงใหม่ไม่ได้ จนเครื่องบินที่รอจอดต้องเปลี่ยนเส้นทางไปจอดที่สนามบินอื่นและมีผู้โดยสารเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ระทึกกลางดึก ผู้โดยสารชาวจีนพุ่งตัวเปิดประตูเครื่องบินขณะเครื่องกำลังจะทะยานขึ้นฟ้า เรือยางเด้งออกจากประตู แอร์โฮสเตสลุกจากที่นั่งมาจับตัวชายจีน ยื้อกันไปกันมา ก้อนลมมหึมาพัดเข้ามาในเครื่องบิน ผู้โดยสารฝรั่งหายตกใจ ลุกมาช่วยจับตัวไว้ อลหม่านไปทั้งลำ กว่าช่างจะมายกเรือยางออกก็ห้าทุ่มกว่า เดิมต้องเทกออฟ 21.05 น. ทุกคนต้องกลับมาอาคารสนามบิน เจ้าหน้าที่พาชายจีนคลุ้มคลั่งออกจากเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายสิบคนตกเครื่องที่บินต่อไปต่างประเทศ เครื่องบินจากต่างประเทศและในประเทศที่มาลงเชียงใหม่ต้องไปจอดที่เวียดนามหรือลาวแทน บางส่วนเปลี่ยนลำใหม่บินกลับกรุงเทพฯ ตอนตี 1 บางส่วนรอกลับรุ่งขึ้น
ส่วนเราตกค้างนอนเชียงใหม่อีกคืน กระเป๋าเดินทางติดแหง็กใต้ท้องเครื่อง กว่าจะได้คืนตี 1 กว่า เดินทางมาครบ 100 ประเทศ เพิ่งเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินเพื่อเหินลงไป ถ้าเขาคลุ้มคลั่งเปิดประตูขณะเครื่องบินอยู่ที่ 30,000 ฟีตเหนือระดับน้ำทะเล อะไรจะเกิดขึ้น ?”
ขณะที่ สำนักข่าวไทย รายงานว่า ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้คุมตัวผู้โดยสารชายรายนี้ คือ นายหว่อง ชาย เฮือง อายุ 40 ปี คนจีนสัญชาติแคนาดา ดีกรีเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา คือกระทำการให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ปรับ 10,000-140,000 บาท และเป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบิน ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ด้วยการเปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับอากาศยาน หรือบุคคล หรือทรัพย์สินในอากาศยาน ข้อหานี้โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายหว่อง เล่าสาเหตุทำไมถึงทำแบบนี้ว่ารู้สึกถูกติดตาม ซึ่งเป็นความทรงจำจากภารกิจลับที่เวียดนาม มีขบวนการใต้ดินจะลอบยิงขีปนาวุธให้เครื่องตก อย่างไรก็ดี ผลตรวจสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ น้อยสอน รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงไทม์ไลน์ของนายหว่อง ว่า นายหว่องเข้าไทยมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากนั้นได้มาเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว และก่อนเกิดเหตุได้ขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่จะไปสุวรรณภูมิ เพื่อกลับแคนาดา นายหว่องให้การกับพนักงานสอบสวนผ่านล่ามและตำรวจท่องเที่ยวว่า เขาไปเปิดประตูเครื่องบิน เพราะมีกลุ่มขบวนการใต้ดินติดตาม รู้สึกเป็นอันตราย รวมถึงบอกด้วยว่า หากเครื่องเทกออฟจะถูกขีปนาวุธลอบยิงตก ทำให้จำเป็นต้องยับยั้งไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม นายหว่อง ยังอ้างว่าป่วย มีอาการทางจิต เคยรักษากับนักบำบัดที่แคนาดามาก่อน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมาแสดง
เบื้องต้นตำรวจจะส่งตัว นายหว่อง ฝากขังในวันนี้ (9 กุมภาพันธ์) และประสานการบินไทย ให้เข้าแจ้งความเพิ่มเติม หากพบความเสียหายเกิดขึ้นกับอากาศยาน รวมทั้งความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดจากการกระทำของนายหว่อง แม้เหตุการณ์นี้การบินไทยบอกว่า เจ้าหน้าที่ช่างได้ตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว และผู้โดยสาร นักบิน รวมถึงลูกเรือ ทุกคนปลอดภัยก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย