เด็ก ม.5 ไม่ใส่หมวกกันน็อก ไม่มีใบขับขี่ โดนตำรวจตั้งด่านจับปรับ 2,000 แต่เด็กไม่มีจ่าย เลยจูงมือไปที่ห้องเพื่อขืนใจ ตรวจสอบแล้ว เป็นเรื่องจริง
วันที่ 30 มกราคม 2567 ช่อง 3 รายงานว่า เพจสายไหมต้องรอด ได้เผยว่าเกิดกรณีที่เด็กหญิงชั้น ม.5 คนหนึ่ง ขับรถจักรยานยนต์ไปกับน้อง โดยที่เด็กไม่ได้พกใบขับขี่ เมื่อถูกตำรวจเรียกโดนปรับ 2,000 บาท เด็กบอกว่าไม่มีเงิน ตำรวจจึงพาเด็กไปข่มขืนที่ข้างโรงพัก ซึ่งนายเอกภพ เหลือประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ ได้มีการประสานไปยัง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
วันเกิดเหตุพบว่า บ้านของเด็กอยู่ห่างจากโรงเรียน 6 กม. และตรงนั้นมีการตั้งด่าน ตำรวจแยกกันไปแต่ละจุด ตำรวจดึงกุญแจรถออกจากมอเตอร์ไซค์ เด็กไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ไม่พกใบขับขี่ ตำรวจจึงถามว่าเด็กมีเงิน 2,000 บาทเพื่อจ่ายค่าปรับไหม เด็กก็เลยพยายามโทร. หาแม่ แต่แม่ไม่รับสาย ตำรวจก็เลยพาเด็กไปห้องหนึ่งที่ติดอำเภอและโรงพัก พร้อมข่มขู่ให้เอาเงิน 2,000 บาท มาจ่ายค่าปรับวันนี้ เด็กก็ยืนยันว่าไม่มี ตำรวจก็บอกว่าต้องมีสิ่งของแลกเปลี่ยน และสุดท้าย เด็กก็โดนตำรวจขืนใจ
หลังเกิดเรื่อง เด็กได้ไปบอกกับยาย ยายก็พาไปแจ้งความ และแม่ก็แจ้งไปที่สายไหมต้องรอด
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.
ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และยอมรับว่า
จากการตรวจสอบและพบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ผู้ก่อเหตุมี 1 คน ยศ
ร.ต.อ ของ สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ขณะนี้ตนมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร
ไปตามติดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และตนได้กำชับให้ดูแลเรื่องสิทธิเด็กและสตรี
รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก และครั้งนี้ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ
ตนยอมไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้าน เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว
และสั่งการให้ พล.ต.ท. ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3
ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงให้ดำเนินคดีอาญาเด็ดขาด
ตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
และขยายผลการดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย และยืนยันว่า
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ไม่มีการช่วยเหลือแน่นอน