มาเข้าเข้าใจกันถึงเรื่องสถานะทางกฎหมายของต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารในสหรัฐกัน
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ หัวข้อเรื่องสถานภาพของอิมมิเกรชันซึ่งได้เป็นจุดประกายมีการถกเถียงและโต้แย้งกันมากพอสมควร เรื่องหนึ่งที่โฟกัสกันก็คือเรื่องสถานภาพทางกฎหมายของต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารในสหรัฐ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีความเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ของโครงประกอบทางกฎหมายล้อมรอบของหัวข้อนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของกฎหมายอิมมิเกรชันฉบับใหม่ที่บังคับใช้แล้วในปี 2023
มันเป็นการเข้าใจกันผิดๆแล้วก็เลยเถิดนอกเรื่องไปว่าต่างด้าวโดยทั่วไปแล้วจะถูกเนรเทศ แต่ในความเป็นจริงแล้วจะเน้นไปถึงการเนรเทศต่างด้าวผิดกฎหมายที่ไม่มีเอกสารกลุ่มนี้กลุ่มเดียวเท่านั้น
เพื่อจะให้มีการเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ถึงสภานภาพทางกฎหมายของต่างด้าวไม่มีเอกสารเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเน้นให้เห็นถึงจุดสำคัญๆสองสามอย่าง
— การไม่มีสถานภาพทางกฎหมาย: ต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร หรือที่รู้จักกันว่า ต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือต่างด้าวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือพำนักอยู่ในสหรัฐได้โดยปราศจากการใช้เอกสารพยานประกอบหรือการได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
— การละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับพลเมือง (Civil violation): การที่เป็นคนที่ไม่มีเอกสารนั้นถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับพลเมืองไม่ใช่เป็นความผิดทางกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตาม, การที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศก็อาจเป็นความผิดทางอาญาไม่ร้ายแรงได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ชัดเจนเช่น แอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายซ้ำแล้วซ้ำอีก
— ถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ: ต่างด้าวไม่มีเอกสารยังได้รับการคุ้มครองตามกระบวนกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่นมีสิทธิ์ตามกระบวนการทางกฎหมายและได้รับการคุ้มครองจากการค้นและยึดอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมกันกับพลเมืองสหรัฐหรือผู้พำนักถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
— การถูกเนรเทศ: ต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารถือว่าเป็นบุคคลที่สามารถถูกไล่ออกหรือเนรเทศออกนอกสหรัฐ พิธีกรรมการถูกเนรเทศออกนอกประเทศอาจถูกเริ่มโดยรัฐบาลถ้าต่างด้าวคนนั้นถูกพบว่าเป็นการละเมิดกฎหมายอิมมิเกรชันหรือถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริงตามฟ้องในอาชญากรรมบางอย่าง
— Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA): ภายใต้โปรแกรม DACA ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการอนุโลมหรือยึดเวลาให้กับต่างด้าวผิดกฎหมายที่เข้ามาสหรัฐเมื่อเยาวัยบางคนที่อาจมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นเนรเทศชั่วคราวและยังได้รับอนุญาตให้ทำงานได้อีกด้วย
— ประมวลกฎหมายอิมมิเกรชันฉบับใหม่ปี 2023 สหรัฐจะใช้กฎหมายอิมมิเกรชันฉบับใหม่นี้ใช้บังคับโดยจะเล็งไปกับเรื่องหลักเกณฑ์ต่างๆของอิมมิเกรชัน รวมถึงต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารด้วย
— ผลกระทบของกฎหมายอิมมิเกรชัน:
1. วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง: กฎหมายอิมมิเกรชันไม่ใช่เป็นกฎหมายที่อยู่นิ่งๆ มันจะวิวัฒนาการไปอย่างฉับพลันให้ทันกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและสภาพแวดล้อมของประเทศ อย่างเช่น มันเป็นเรื่องสำคัญให้เป็นแนวเดียวกันกับการพัฒนาการล่าสุดเพื่อหลีกเลี่ยงกับความสับสนหรือการแปลความหมายผิดๆ
— เปรียบเทียบกับความแม่นยำ:
2. การให้ข้อมูลผิดๆหรือสิ่งที่รู้มาผิดๆ: ในสมัยเป็นสมัยที่พรรณาถึงคุณสมบัติพิเศษโดยการแพร่กระจายข้อมูลอย่างรวดเร็ว มันสำคัญมากเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลกฎหมายอิมมิเกรชันจากแหล่งที่เชื่อถือได้ การพึ่งพาอาศัยกับแหล่งข่าวแห่งเดียวอาจนำไปสู่ความคิดเห็นที่ผิดหรือการเข้าใจผิดๆซึ่งสามารถส่งผลที่ตามมาร้ายแรง
3. แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล: อำนาจสำคัญที่สุดสำหรับกฎหมายอิมมิเกรชันนั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลสหรัฐ เราขอแนะนำให้เข้าไปปรึกษากับเว็บไซ๊ท์อย่างเป็นทางการของรัฐบาล เช่นจากหน่วยงานต่างๆที่สามารถให้คำแนะนำจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง U.S. Citizenship and Immigration Services (USCIS), กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ the Department of Homeland (DHS), และกระทรวงต่างประเทศ the Department of State (DOS), แหล่งข้อมูลเหล่านี้จัดหาข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและทันสมัยที่สุดในด้านนโยบายอิมมิเกรชัน, การดำเนินการและระเบียบการต่างๆ
ความสำคัญของความเข้าใจในประมวลกฎหมายอิมมิเกรชันปี 2023:
4. การเชื่อฟังและปฏิบัติตาม: เป็นคนสันทัดกรณีรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายอิมมิเกรชันนั้นถือว่าสำคัญสำหรับทุกคนและองค์กรต่างๆที่เพ่งเล็งกับการปฏิบัติตามกฎหมาย การเข้าใจผิดๆกับประมวลกฎหมายอิมมิเกรชันฉบับใหม่นี้อาจนำไปสู่การลงโทษทางกฎหมาย เช่นถูกปรับ, เนรเทศ หรือแม้กระทั่งข้อกล่าวหาทางอาญาต่างๆได้
บทความด้านกฎหมายนี้ถือว่าเป็นการไตร่ตรองกับความสำคัญของการเป็นผู้รู้อยู่เสมอกับข่าวสารและข้อมูลที่ถูกต้อง