ปริศนาเสื้อกันฝนเดินเองกลางถนน ชาวบ้านผวาเชื่ออาถรรพ์ลี้ลับ ก่อนตำรวจคลี่คลายคดี พร้อมเปิดโปงกลวิธีของคนก่อเหตุ
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ประหลาดลึกลับ “ปริศนาเสื้อกันฝน” ในพื้นที่เมืองซีโจว เขตเทศมณฑลจางฮว่า ในไต้หวัน ภายหลังจากช่วงที่ผ่านมานี้ มีผู้พบเห็นเสื้อกันฝนสีเหลืองเดินได้เองอยู่กลางถนน สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับหลายคน ทั้งยังมีการบันทึกคลิปวิดีโอไปแชร์ต่อกันบนโลกออนไลน์
จากคลิปวิดีโอที่มีผู้นำมาโพสต์ แสดงให้เห็นว่า ในช่วงที่ฟ้าครึ้ม กลางคืน หรือมีฝนตกเล็กน้อย จะมีเสื้อกันฝนสีเหลืองลอยไปมาอยู่ที่กลางถนน ลักษณะการเคลื่อนที่แบบตัวตั้งตรงค่อย ๆ ลอยไปแบบช้า ๆ มองดูคล้ายกับว่ามันสามารถเดินได้เอง โดยที่ด้านในไม่ได้มีคนสวมใส่มันแต่อย่างใด บางจังหวะก็ลอยขึ้น แล้วตกลงมาที่พื้น คล้ายกับว่ากำลังกระโดด
ภายหลังจากเรื่องราวปรากฏการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง
ก็สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คน ชาวบ้านในท้องถิ่นบางรายหวาดกลัว
เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาถรรพ์หรือคำสาป
ส่วนผู้ที่เชื่อในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติก็พูดกันว่า “เสื้อกันฝนตัวนั้นมีวิญญาณสิงสู่
ซึ่งน่าจะเป็นวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในบริเวณนั้น
จึงยังคงวนเวียนอยู่ไม่ยอมไปไหน”
อย่างไรก็ตาม
มีผู้ใช้รถใช้ถนนบางส่วนกังวลว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ
จึงได้รายงานเรื่องไปยังทางตำรวจในพื้นที่
ซึ่งในตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลิปวิดีโอ เบื้องต้นพวกเขาเข้าใจว่า
มันน่าจะเป็นเพียงแค่หุ่นที่ถูกสวมชุดสีโดดเด่น
ซึ่งมักถูกนำมาตั้งไว้เป็นเครื่องหมายบอกว่ามีจุดก่อสร้างบนถนนที่ใช้ความเร็ว
เมื่อมีแรงลมจากพายุฝนจึงทำให้มันพัดปลิวไป
ทว่าภายหลังจากการติดตามสืบสวนพบว่าความจริงไม่ใช่เช่นนั้น
ในที่สุดทางตำรวจสามารถคลี่คลายปริศนานี้ได้ว่า
มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ประหลาดหรือเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติใด ๆ
แท้จริงแล้วเป็นฝีมือของคนที่จงใจสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเขาได้ เป็นผู้ชายชื่อว่านายจง
อาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุ โดยเขาใช้กลวิธี
เอาเทปปิดส่วนหัวและแขนของเสื้อกันฝน แล้วเทก๊าซไฮโดรเจนลงไป
จากนั้นก็ปล่อยให้มันลอยไปเอง
ภายหลังจากถูกจับกุม นายจง สารภาพว่าทำไปเพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
ไม่มีเจตนาร้าย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังคงแจ้งข้อหาดำเนินความผิด
ฐานละเมิดกฎหมายที่ว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยทางสังคม
รวมทั้งฝ่าฝืนกฎจราจรบนถนน ซึ่งมีโทษปรับจำนวนหนึ่ง
และขณะนี้คดีความอยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday
