หนุ่มวัย 21 ปี ชอบเล่นกีฬา ไม่สูบบุหรี่ กลับเอกซเรย์เจอปอดขาวโพลน แพทย์ชี้ จะเหลือปอดข้างเดียวตลอดชีวิต
ชายหนุ่มรายนี้ได้โพสต์กระทู้หัวข้อว่า “ตอนอายุ 21 ปี ผมเหลือปอดข้างเดียว” โดยเล่าว่า เขาชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง โดยเฉพาะการปั่นจักรยานและเดินเขา เขาไม่สูบบุหรี่ แต่คนในครอบครัวสูบ ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันไหม เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เขามีอาการเจ็บหน้าอกกะทันหัน จึงไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกาย ก่อนผลเอกซเรย์จะปรากฏออกมาว่า ปอดของขาวกลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด เขาจึงถูกส่งตัวไปยังแผนกเวชศาสตร์ทรวงอก เพื่อตรวจเพิ่มเติม
ต่อมาหลังจากการทำ CT scan และ MRI แพทย์พบว่า เขาพบว่ามีเนื้องอกขนาด 15 เซนติเมตรในช่องตรงกลางหน้าอก ระหว่างเยื่อหุ้มปอดข้างซ้ายและขวา หรือที่เรียกว่า เมดิแอสตินัม (Mediastinum) แพทย์ตัดสินใจตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ก่อนผลการวินิจฉัยจะออกมาว่า เขาเป็นเนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์ เขาได้รับการทำเคมีบำบัดครั้งแรกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และเนื้องอกโตขึ้นเป็น 20 เซนติเมตร
ชายหนุ่มกล่าวว่า “หลังจากทำเคมีบำบัด ผมรู้สึกอาเจียน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และฝันร้าย มันเจ็บปวดจริง ๆ และอารมณ์ของผมเปลี่ยนไปทุกวัน มันแย่มากจริง ๆ”
นอกจากนี้ หลังจากให้เคมีบำบัดครบ 3 รอบ เนื้องอกก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง แต่กลายเป็นพังผืดที่กำลังจะเป็นเนื้อตาย สิ่งที่ทำให้เขายิ่งทุกข์ใจมากขึ้นคือ หมอบอกว่า เขาจะเหลือปอดแค่ข้างเดียวตลอดชีวิต เขารู้สึกตัวชาไปทั้งตัว แล้วร้องไห้ออกมาทันที คิดกับตัวเองว่า “อายุเราแค่ 21 ปีเท่านั้นเอง”
ชายหนุ่มเผยว่า เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร สักวันหนึ่งมันอาจจะกลับมาอีก หรือมันจะส่งผลถึงชีวิตหรือไม่ ความกังวลเกิดขึ้นมากมายและทั้งหมดดังก้องอยู่ในใจ เขารู้สึกว่าการรักษาเหนื่อยมาก แต่ก็ยังคงรู้สึกขอบคุณครอบครัวและเพื่อน ๆ ทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้ รวมทั้งแพทย์และพยาบาล หากไม่มีพวกเขา ก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
“ผมหวังว่าเรื่องของผม จะทำให้คุณทุกคนรักตัวเอง และปกป้องดูแลร่างกายของคุณเองให้ดีที่สุด” ชายหนุ่ม กล่าว
ภายหลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป ผู้คนจำนวนมากก็เข้าไปแสดงความรู้สึกเห็นใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจเขาอย่างมากมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday