In Thailand

ผลตรวจเส้นผม 2 ตายาย พบสารปริศนา เชื่อลูกสาววางยาฮุบ 500 ล้าน ตอนนี้หมดตัว !!

Written by Thailand News

          ผลตรวจเส้นผม 2 ตายายพบสารปริศนา ออกฤทธิ์กล่อมประสาท เชื่อลูกสาววางยาเพื่อฮุบสมบัติ 500 ล้าน ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตัดพ่อแม่ลูก

          จากกรณีที่มีตายายคู่หนึ่งมาร้องเรียนว่า ถูกลูกสาวคนเล็กวางยาเพื่อฮุบสมบัติมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยใช้วิธีหลอกล่อให้โอนทรัพย์สินต่าง ๆ มายังลูกสาวคนเล็กแบบไม่รู้ตัว และลูกสาวคนเล็กก็นำเงินไปใช้ต่อ ซึ่งเรื่องนี้มีการตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาหลักฐานยืนยันว่าใช่เรื่องจริงไหม

          ล่าสุด วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ช่อง 3 สองตายายเดินทางมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อฟังผลการตรวจเส้นผมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผลปรากฏว่า เส้นผมของยายมีสารเคมีบางชนิดที่เป็นสารเสพติด จากการตรวจสอบย้อนหลังก็พบว่า เป็นยาที่อยู่ในร่างช่วงอาศัยกับลูกสาวคนเล็กพอดี จึงค่อนข้างชัดเจนว่า ตายายถูกวางยา

          ขณะที่ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ
ประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
เราแค่แจ้งผลให้ตายายทราบเท่านั้น ส่วนเรื่องคดีเป็นเรื่องของตำรวจ
เบื้องต้นเส้นผมคุณตาไม่พบสารอะไร
ส่วนเส้นผมของยายมีสารออกฤทธิ์ต่อการกล่อมประสาท
เป็นยาที่วัยรุ่นชอบนำไปผสมเป็นยามึนเมา 4 x 100

         
ทีมนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า
ยาที่พบคือยาแก้ปวดชนิดรุนแรงระหว่างพาราเซตามอลกับมอร์ฟิน
ในผมของคุณตายาวเพียง 5.2 เซนติเมตร ทำให้ย้อนหลังได้เพียง 5 เดือน
แต่ผมของยายมีความยาว 13.7 เซนติเมตร สามารถย้อนได้ถึงเดือนสิงหาคม 2565
จึงสามารถเปรียบเทียบช่วงเวลาที่อยู่กับลูกสาวคนเล็กได้ และพบสารยาดังกล่าว
ยาตัวนี้ในทางการแพทย์เป็นยาที่ต้องควบคุม
จะไม่มีการจ่ายยารักษาเป็นการทั่วไป
ยิ่งอาการป่วยของตายายไม่สามารถทานยาตัวนี้ร่วมกับอาการอื่นได้
เพราะมีผลต่อสื่อประสาท ทำลายสมอง ทำให้ที่ผ่านมาตายายมีอาการเบลอ
หากกินมากเกินไปอาจส่งผลถึงชีวิต แต่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งคู่ไม่มียาตัวนี้ จึงทำให้ระบบประสาทของทั้งคู่ดีขึ้น

         
ตายาย เปิดเผยว่า ปกติลูกสาวคนเล็กเป็นคนจัดยาให้ทาน
ตนก็ไม่ทราบว่ามียาอะไรบ้าง แต่ยาตัวนี้จะให้ทานทุกวัน วันละ 3 ครั้ง
ครั้งละ 2-3 เม็ด และไม่ใช่ยาที่หมอจัดให้ทาน ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้
ไม่คิดว่าจะทำกับคนเป็นพ่อแม่ หลังจากนี้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ต่อให้มาขอโทษก็ไม่ให้อภัย พร้อมตัดขาดพ่อแม่ลูก
เพราะสมบัติทุกอย่างลูกคนเล็กก็เอาไปหมด ทุกวันนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว
ส่วนลูกเขยหรือสามีลูกสาวคนเล็กก็เชื่อว่า มีส่วนรู้เห็น
เพราะมีความพัวพันกับคดียาเสพติด พูดจาก้าวร้าวกับตนตลอด

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3




Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »