จับโป๊ะสตรีตฟู้ดหลัง ม. ดัง ขายแฟรนไชส์ปลอม หลอกโอนเงินยิก ๆ ไม่มีของให้ เหยื่อไม่ได้มีคนเดียว !

            ดราม่าทะลุดังข้ามคืน สาวติดต่อซื้อแฟรนไชส์ร้านสตรีตฟู้ดชื่อดังหลังมหาวิทยาลัยดังในภาคเหนือ แต่กลับพบว่า ไม่มีสัญญาจะให้ มีแต่จะให้โอนเงินยิก ๆ รู้อีกทีคือขายแฟรนไชส์ 1 สาขาให้คน 2 คน แถมไม่มีการติดต่อใด ๆ กับทางห้างเพื่อเช่าที่ แบบนี้ต้องแฉ ด้านคนชี้คีย์เวิร์ดใหญ่ รู้ทันที

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพจาก amadeustx / Shutterstock.com

            เป็นดราม่าเดือดทะลุปรอทสุด ๆ เมื่อมีสาวคนหนึ่งออกมาแฉร้านสตรีตฟู้ดชื่อดังหลังมหาวิทยาลัยดังในภาคเหนือ กับมหกรรมตบตาหลอกขายแฟรนไชส์ปลอม ให้โอนเงินยิก ๆ เก็บทุกเม็ดทุกบาท แต่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนสุดท้ายจับโป๊ะได้คาหนังคาเขา

สนใจซื้อแฟรนไชส์สตรีตฟู้ดร้านดัง แม้จะแพงแต่ยอมกัดฟัน เพราะนึกว่าได้สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว

            ทั้งนี้ คุณ อ. (นามสมมุติ) เปิดร้านอาหารใน กทม. และช่วงกลางวันที่ว่างเธอก็ต้องการที่จะหาอะไรมาขาย เธอจึงไปติดต่อร้านสตรีตฟู้ดชื่อดังหลังมหาวิทยาลัยดังในภาคเหนือร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่น่าไว้ใจ ขายสินค้ามานาน มีเซเลบคนดังมารีวิวมากมาย และเธอก็ทานร้านนี้มาตั้งแต่ปี 1

            เมื่อมีการติดต่อร้านและทราบราคาแล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าราคาสูงไป แต่ป้าเจ้าของร้านบอกว่า หากเธออยู่แถว ม.เกษตร คุณป้าจะให้แฟรนไชส์ที่ฟู้ดคอร์ท ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวด้วย โดยความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้ เพราะฟู้ดคอร์ท เซ็นทรัลลาดพร้าวมีคนมาเดินเยอะมาก เธอจึงบอกว่า หากได้พื้นที่ขายเป็นแฟรนไชส์ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวถึงจะซื้อ และคุณป้าก็ตกลง ให้แฟรนไชส์สาขา ม.เกษตรและสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว คิดค่าแฟรนไชส์สาขาแรกราคาเต็ม และสาขาที่ 2 คิดในราคา 15% ของสาขาแรก

            จากนั้น คุณป้าก็จะเร่งให้คุณ อ. เข้าไปเทสสูตร อ้างว่าก่อนหน้านี้ไปเทสสูตรที่สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะแล้ว อยากให้คุณ อ. รีบเข้าไปขาย มีการแคปแชตที่คุยกับเจ้าหน้าที่เซ็นทรัลลาดพร้าวมาให้ดู คุณ อ. เชื่อใจและตกลงซื้อแฟรนไชส์ เพราะร้านคุณป้าก็ใหญ่ มีจริง มีลูกค้าตลอดและคิดว่าเกิดอะไรขึ้นสามารถตามได้แน่นอน เธอจึงตกลงซื้อแฟรนไชส์

โอนเงินมัดจำปุ๊บ ความวิบัติตามมา โดนป้าตามยิก ๆ ให้โอนเงินเพิ่มเรื่อย ๆ บอกไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ก็ยังต้องจ่ายเพิ่ม

            เมื่อตกลงซื้อแฟรนไชส์แล้ว ความวิบัติก็เริ่มขึ้น คุณ อ. เริ่มโอนมัดจำให้คุณป้าไปก้อนแรก และตกลงว่าจะแบ่งจ่าย แต่โอนมัดจำไปไม่นาน คุณป้าก็บอกว่าต้องซื้อถ้วยกระดาษและฝาแบบร้านคุณป้า คุณ อ. ซึ่งยังไม่มีกำหนดเปิดร้านก็ไม่อยากซื้อ แต่เมื่อถูกคะยั้นคะยอมาก ๆ จึงยอม เพราะคิดว่าอย่างไรก็ต้องเปิดร้านอยู่แล้ว จึงยอมซื้อมาก่อน

            และไม่ใช่เพียงแค่ถ้วยกระดาษและฝาที่ต้องซื้อเท่านั้น จากนั้นคุณป้าก็คะยั้นคะยอให้เธอซื้อนั่นซื้อนี่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เธอต้องจ่ายเพิ่ม จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอกลับเชียงใหม่ คุณป้าก็อ้างว่าเพิ่งกลับมาจากการไปเทสสูตรกับเจ้าหน้าที่เซ็นทรัลลาดพร้าวมา อยากให้คุณ อ. เข้าไปเรียนไว ๆ เพื่อจะได้พร้อมขายของเลย แต่เธอยังไม่สะดวกที่จะไปเรียนและชำระเงินก้อนถัดไป แต่คุณป้าก็คะยั้นคะยอให้เธอไปเรียน จะมืดค่ำอย่างไรก็ให้เข้ามาได้หมดและอ้างว่า “ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม”

            จนสุดท้าย คุณ อ. เข้าไปเรียน แต่เมื่อจะเรียนคุณป้าก็บอกให้เธอโอนเงินมาให้อีก ทำให้คุณ อ. งงว่า จะโอนได้ยังไง ในเมื่อคุณป้าบอกเองว่า “ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม” จนคุณป้าบอกว่าที่ให้โอนเงินเพื่อมาเป็นค่าซื้อวัตถุดิบที่ใช้สอน แต่วัตถุดิบที่ใช้สอน ควรรวมอยู่ในค่าแฟรนไชส์ที่ซื้อสิ จะมาขอเงินเพิ่มก็ไม่ใช่ และป้าก็เลยบอกว่า เงินที่โอนมานั้นจะเอาไปหักเป็นค่าน้ำซอส หากเรียนเสร็จแล้ว จะส่งน้ำซอสไปให้ คุณป้าจ่ายค่าเดินทางไปเทสสูตรที่ กทม. เยอะมาก ไม่ค่อยมีเงิน ด้วยความเห็นใจ คุณ อ. จึงยอมโอนเงินไปให้ และเมื่อโอนเงินไปไม่อีกกี่นาที คุณป้าก็ขอให้โอนเงินอีก มีการโทรตื๊อแบบไม่หยุด จนคุณ อ. หงุดหงิด คุณ อ. จึงยอมโอนเงินให้เพราะคิดว่าอย่างไรก็ได้น้ำซอสมาอยู่ดี เนื่องจากในแฟรนไชส์จะไม่สอนทำน้ำซอส

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพจาก Aireo / Shutterstock.com

เริ่มเอะใจ มีแต่ให้โอนเงิน แต่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ตัดสินใจไม่โอนเพิ่ม

            เมื่อเธอกลับมา กทม. แล้ว ก็ปรากฏว่าป้าขอให้คุณ อ. โอนเงินอีก 10,000 บาท และอ้างว่าต้องรีบไปทำสัญญากับทางเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่คุณ อ. ยืนยันที่จะไม่โอนอะไรใด ๆ คุณป้าทั้งทักไลน์ ทั้งโทร. ตาม คุณ อ. ก็ไม่ตอบ จนคุณป้าหายไปสักพักและมาบอกคุณ อ. ว่า ขอเงินมาก่อน 4,000 บาท อีก 6,000 บาท คุณป้าจะไปหายืมที่อื่น

            ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่คุณ อ. ไม่ยอมโอนเงิน เพราะคุณ อ. ไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของเซ็นทรัลลาดพร้าวเลย มีแค่เห็นแชตของคุณป้าที่อ้างว่าคุยกับเจ้าหน้าที่ และอ้างว่าให้คุณ อ. มาทำสัญญาที่เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่แทน คุณ อ. เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ทั้งทีท่าร้อนเงินตลอดเวลา น้ำซอสที่อ้างว่าจะให้ก็ไม่ให้ สุดท้าย คุณ อ. ก็เลือกที่จะไม่โอนอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว

เหยื่ออีกราย ทักมา ความแตกป้าขายแฟรนไชส์ซ้อน โดนแบบเดียวกัน โป๊ะซ้ำติดต่อเจ้าหน้าที่เซ็นลาดได้

            จนกระทั่งต่อมา ได้มีคุณบี (นามสมมุติ) ทักมาหาคุณ อ. และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทำให้ทำคุณ อ. ทราบว่า คุณบีก็โดนป้าหลอกขายแฟรนไชส์ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งลักษณะของคุณบีจะคล้ายกับคุณ อ. คือ คุณบีได้ติดต่อไปหาคุณป้าเพื่อซื้อแฟรนไชส์ และคุณป้าเสนอจะขายแฟรนไชส์สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวให้ คุณบีก็ตกลงซื้อและโอนเงินมัดจำให้คุณป้า จากนั้นคุณบีก็โดนคุณป้าบอกให้คุณบีโอนเงินยิก ๆ เหมือนคุณ อ. คุณป้าบอกให้คุณบีไปเทสอาหารที่เซ็นมรัลลาดพร้าวและมีการเรียกเก็บเงินค่าวัตถุดิบ รวมถึงถูกคะยั้นคะยอให้โอนเงินค่าทำสัญญา 10,000 บาท โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือหนังสือสัญญาใด ๆ คุณบีเอะใจจึงเริ่มย้อนแชต และเห็นชื่อคุณ อ. ในแชตที่คุณป้าแคปไปให้ คุณบีจึงตัดสินใจติดต่อหาคุณ อ.

            ตอนแรกคุณบีเข้าใจว่า ตนเองโดนคุณป้าหลอกคนเดียว เพราะคุณบีไม่มีหลักฐาน แต่คุณ อ. ได้หลักฐานการเซ็นสัญญาจากคุณป้าที่ระบุเลยว่าสาขา ม.เกษตร และ เซ็นทรัลลาดพร้าว คุณบีในตอนแรกคิดว่าจะถอดใจ ไม่ตามเงินแล้ว เพราะคุณป้าปากแซ่บมาก แต่คุณ อ. บอกว่าให้รวบรวมหลักฐานและร่วมกันเอาผิดคุณป้าดีกว่า

            จากนั้น ทั้งคู่จึงไปค้นแชตเก่า ๆ และพบว่าในแชตของเจ้าหนา้ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวที่คุณป้าอ้างว่าคุยด้วยนั้น มีเบอร์อยู่ คุณ อ. จึงทักไปหาเจ้าหน้าที่ ผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ และเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า คุณป้าได้ติดต่อมาที่เซ็นทรัลลาดพร้าวจริง แต่เมื่อนัดให้เข้ามาเทสสูตร คุณป้ากลับไม่มา และไม่เคยเข้าขั้นตอนและกระบวนการใด ๆ ตามข้อกำหนดของเซ็นทรัลลาดพร้าว และตอนนี้ทุกล็อกที่ขายของในฟู้ดคอร์ท เซ็นทรัลลาดพร้าว คนเต็มหมด ไม่มีล็อกว่าง และเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้จักคุณป้าเป็นการส่วนตัวอย่างที่คุณป้าแอบอ้างใด ๆ

ปฏิบัติการจับโจร ลากป้าเข้ากลุ่มไลน์ งัดหลักฐานมาสู้ จนสุดท้ายป้าต้องยอม

            คุณ อ. จึงตัดสินใจใช้แผนจับโจร ด้วยการสร้างกลุ่มไลน์ขึ้นมาเพื่อบอกว่าเอาไว้คุยงานกัน คุณ อ. ให้พี่ชายเข้ามาในกลุ่มไลน์ก่อน เพื่อให้คุณป้าเข้ากลุ่ม เมื่อคุณป้าเข้ากลุ่มมา คุณ อ. ก็แกล้งถามว่าจำได้ไหมที่บอกว่า ถ้าคุณ อ. ไม่ได้สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว เธอจะไม่ซื้อแฟรนไชส์ คุณป้าก็บอกว่าจำได้ คุณ อ.จึงดึงคุณบีเข้ากลุ่มด้วย และเกิดการตกลงกันเรื่องการขายแฟรนไชส์ซ้อน คุณป้าอ้างว่า คุณบีไม่ได้จ่ายค่าแฟรนไชส์เลยไม่ได้เรียน ทั้งที่คุณบีโอนเงินไปแล้ว และแม้ว่าคุณ อ. จะทำสัญญากับป้าแล้ว แต่คุณป้ายังบอกให้คุณบีโอนค่าทำสัญญากับเซ็นทรัลลาดพร้าวอีก

            คุณป้าพยายามเฉไฉ คุณ อ. เลยส่งคลิปเสียงที่คุยกับเจ้าหน้าที่ให้คุณป้าดู แต่คุณป้ากลับบอกว่าที่คุณป้าคุยไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนนี้ แต่คุยกับผู้บริหาร และพยายามโทษว่าทั้งคุณ อ. และบีไม่ช่วยทำอะไรเลย จนทั้ง 2 คนก็งงว่าจะให้ช่วยทำอะไร ในเมื่อคุณป้าบอกว่าติดต่อไว้หมดแล้ว เหลือแค่ให้คนซื้อแฟรนไชส์ไปขาย ซ้ำยังได้เงินจากพวกเธอไปแล้วด้วย

            ทั้งคุณ อ. และคุณบีงัดหลักฐานมาสู้ จนคุณป้ายอมอ่อน แต่ก็ยังไม่ยอมรับเรื่องโกหก  และทั้งคุณ อ. และคุณบี ต้องการเงินคืนเพราะสาขาที่เซ็นทรัลลาดพร้าวไม่มีจริง คุณป้าต่อรองคุณบีว่าจะคืนเงินให้แต่ขอเวลา ส่วนกับคุณ อ. นั้น บอกว่าจะไม่คิดค่าแฟรนไชส์สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว  แต่คุณ อ. บอกแต่แรกแล้วว่า หากไม่ได้สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวจะไม่เอา จนนำไปสู่การอ้างเหตุผลที่จะไม่คืนเงินใด ๆ เพราะไปเรียนทำอาหารด้วยแล้ว แต่คุณ อ. ไม่ยอมและต้องการเงินคืนและไม่ไปต่อ

ใช้ทุกมาตรการงัดทวงเงินป้า จนปาฏิหาริย์ยอมโอนเงินให้ อึ้งยังมีเหยื่ออีกหลายราย โดนป้าหลอกเหมือนกัน

            จนสุดท้าย คุณป้าก็บอกว่า จะคืนเงินให้ทั้งคุณบีและคุณ อ. ทั้งหมด แต่จะทยอยจ่ายไม่เกิน 23 ตุลาคม เรื่องนี้คุณ อ. จับโกหกได้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แต่เมื่อเข้าเดือนตุลาคม คุณป้าก็เงียบหายไป พี่ชายคุณ อ. จึงพยายามไปทวงเงิน แต่ปรากฏว่าคุณป้าอ้างว่าป่วยบ้าง นัดเอาชิ้นส่วนตับไปตรวจ ผ่าคอบ้าง โดนย้ายร้าน รถชน และอื่น ๆ

            จนกระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม คุณ อ. ทักไปหาว่าจะขอเงินทั้งหมดคืนไม่เกินวันที่ 23 ตุลาคม เวลา 12.00 น. คุณป้าก็บอกว่าจะให้คุณ อ. 10,000 บาท และคุณบี 5,000 บาทก่อน ที่เหลือจะจ่ายให้ไม่เกิน 5 พฤศจิกายน จนคุณ อ. หมดความอดทนและจะดำเนินคดีตามกฎหมาย จนคุณบีก็หมดความอดทนเหมือนกัน และไปคอมเมนต์ในเพจชื่อดังร้านหนึ่งที่รีวิวร้านคุณป้า และบอกว่าจะลบรีวิวให้เมื่อคุณป้าโอนเงินมาจนครบ จนคุณป้าเองก็โวยวายว่าทำแบบนี้คุณป้าเสียหาย คุณบีจึงบอกว่า ถ้าจะโอนเงินให้เธอวันที่ 5 เธอก็จะลบรีวิววันที่ 5 และมีการขู่ฟ้อง พรบ.คอมพิวเตอร์ แต่คุณบีก็สู้สุด ๆ

            ซึ่งระหว่างที่คุณ อ. โพสต์เรื่องราวใน EP.1 อยู่นั้น จู่ ๆ คุณป้าก็โอนเงินมาให้ทั้งคุณ อ. และคุณบีจนครบ คุณบีจึงทำตามสัญญาคือไปลบคอมเมนต์ออก แต่คุณ อ. ยืนยันจะไม่ลบเรื่องราวนี้ เพราะเธอไม่ได้เอ่ยชื่อป้า และหลังจากที่เธอโพสต์เรื่องนี้ออกไป ก็ปรากฏว่ามีหลายคนที่คุณป้าไปก่อวีรกรรมอีกเยอะมาก ๆ บางเคสโดนหลอกขายแฟรนไชส์แต่ไม่ได้เงินคืน บางเคสหลอกยืมเงินจนนักศึกษาเอาเงินค่าเทอมไปให้ยืมก่อนและไม่ได้คืน บางเคสเป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน รวมถึงบางคนที่เคยซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วมีปัญหาตามมามากมาย รวมไปถึงบางเคสที่คุณป้าเอารองเท้าแบรนด์เนมไป และนำไปจำนำต่ออีกทอด

            คุณบียืนยันว่า ที่เธอออกมาโพสต์เพราะไม่อยากให้ป้าทำแบบนี้กับใครอีก ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่อ และตนกล้ายืนยันว่าทุกแย่งาคืแความจริง 100% หากคุณป้าจะเล่นเรื่องกฎหมายเธอก็พร้อมสู้ เพราะมีคนที่เป็นผู้เสียหายพร้อมสู้ไปกับตนเยอะมาก ๆ