In Thailand

ชลน่าน แนะคนไทยมีลูก ลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม ชาวเน็ตค้านแหลก แต่มี 1 เมนต์ โบ๊ะบ๊ะสุด !

ชลน่าน แนะคนไทยมีลูก ลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม ชาวเน็ตค้านแหลก แต่มี 1 เมนต์ โบ๊ะบ๊ะสุด !
Written by Thailand News

         ชลน่าน แนะคนไทยมีลูก ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ปรับสมดุลโครงสร้างประชากร พร้อมคัดกรองสิทธิประโยชน์ในการตรวจรักษาโรค ด้านชาวเน็ตค้าน เอาเงินที่ไหนมาเลี้ยง

         วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวเปิดการประชุมเพื่อหารือและเสริมสร้างนโยบายมะเร็งในสตรี และโอกาสของการดูแลมะเร็งในสตรี ภายใต้หัวข้อ “Enhancing Women’s Cancer Care: Thailand Women Cancer Policy Forum” ว่า เดือนตุลาคมทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม ดังนั้น เดือนนี้จึงมีความสำคัญกับสุภาพสตรี ประเทศไทยก็ร่วมรณรงค์ในหลายกิจกรรม เพื่อสร้างความตระหนักรู้กับการต่อสู้มะเร็ง

         ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็แถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วยนโยบายการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HVP) เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้กับเด็กหญิงอายุ 11-20 ปี ทั้งในและนอกระบบสถานศึกษา จำนวน 1 ล้านคนภายในสิ้นปี 2566 ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนใน 100 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

         ทั้งนี้ มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในมะเร็งเพศหญิง แต่อัตราเสียชีวิตน้อยกว่ามะเร็งปากมดลูก ตัวเลขตายของมะเร็งเต้านมอยู่ที่ร้อยละ 40 หรือคิดเป็นผู้ป่วย 17,000 คน ตาย 5,000 คน ส่วนมะเร็งปากมดลูกมีอัตราตายสูงถึงร้อยละ 50 ถือเป็นอัตราที่สูงมาก เพราะผู้ป่วยมาหาตอนที่มีอาการป่วยอยู่ในระยะ 3 หรือ 4 ถ้าเราทำให้การรักษาเกิดขึ้นเร็ว จะช่วยลดตัวเลขการตายได้ครึ่งหนึ่ง

         ข้อมูลทางวิชาการ ระบุว่า ความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม พบสูงในผู้หญิงที่มีประจำเดือนก่อนอายุ 1 ปี แล้วประจำเดือนหมดหลังอายุ 55 ปี ที่สำคัญคือ มะเร็งเต้านมมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง ข้อมูลระบุชัดเจนว่าผู้หญิงที่มีลูก 3 คนขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมน้อยกว่าคนที่ไม่มีลูก ดังนั้น จึงต้องรณรงค์ให้เรามีลูก เพื่อป้องกันมะเร็งเต้านม สร้างความสมดุลให้กับโครงสร้างประชากรของประเทศ

         นอกจากนี้ ตนได้ฝาก สปสช. พิจารณาการเพิ่มสิทธิประโยชน์การคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเมมโมแกรม ในผู้หญิงกลุ่มเสี่ยงที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป เพราะปัจจุบันจะทำได้เฉพาะตอนมีอาการ ยังไม่ครอบคลุมผู้ไม่มีอาการ อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดในการดูแลผู้ป่วย จึงต้องกำหนดกลุ่มปัจจัยเสี่ยงอันดับแรก คือ เพศหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีประจำเดือนเร็วและหมดช้า, ผู้ที่มีภาวะอ้วน และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

         ด้านชาวเน็ตที่อ่านข่าวนี้ต่างไม่เห็นด้วยกับ นพ.ชลน่าน มองว่า การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การพูดให้คนมีลูกเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ทำยาก ถ้าอยากให้คนมีลูก รัฐต้องเพิ่มสวัสดิการให้ ขณะเดียวกันก็มีบางคอมเมนต์ติดตลก บอกว่า ถ้าอยากให้มีลูกควรมีสามีก่อน ผ่ากลางวงรถทัวร์แบบโบ๊ะบ๊ะไม่น้อยเลยทีเดียว

ชลน่าน ศรีแก้ว
ชลน่าน ศรีแก้ว




Source link

About the author

Thailand News

Leave a Comment

Translate »