แม่ดาราหนุ่ม อ๊อฟ ธนกฤต ร่ำไห้ สาวเมาขับชนลูกชายติดเตียง โพสต์จิบไวน์สบายใจ กินหรูอยู่สบาย แต่ไม่ชดใช้สักบาท
จากกรณีที่ อ๊อฟ ธนกฤต นักแสดงหนุ่ม ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หลังถูกสาวเมาแล้วขับ ขับรถยนต์พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทุพพลภาพถาวร และยังสู้คดีกันอยู่ในชั้นศาล ยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม โดยเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดลำพูนนัดฟังคำพิพากษา จำคุกจำเลย 2 ปี ปรับเงิน 4 หมื่นบาท จำเลยสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท จำเลยทำผิดครั้งแรก ชดเชยค่าเสียหายให้โจทก์บางส่วน ให้รอลงอาญา 2 ปี พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถ 2 ปี และให้คุมประพฤติและทำงานบริการสังคมครบ 2 ปี
ในส่วนของคดีแพ่ง ศาลตัดสินให้จำเลยชดใช้โจทก์ 4,172,962.62 บาท และให้จำเลยชดใช้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้กับโจทก์ร่วมด้วย
น.ส.ดวงกมล วุฒิโรธง อายุ 49 ปี แม่นายธนกฤต เผยว่า ผ่านมากว่า 5 เดือนสาววัยรุ่นคนดังกล่าวไม่เคยติดต่อมาขอโทษหรือชดใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว หลังจากนั้นได้มีพลเมืองดีส่งรูปภาพชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่นสาวมาให้ตนดูก็พบว่าเธอนั้นใช้ชีวิตกินหรู อยู่สบาย เหมือนกับเรื่องที่ขับรถชนลูกชายของตนจนเป็นเจ้าชายนิทราไม่เคยเกิดขึ้น จึงรับไม่ได้กับเรื่องนี้ตัดสินเดินทางจาก จ.ลำพูน เข้ามาร้องเรียนขอคำปรึกษากับทนายให้ช่วยเรื่องในเรื่องคดี เพราะตนอยากจะทำเรื่องขออุทธรณ์ต่อศาลต่อไป
น.ส.ดวงกมล เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตนต้องดูแลน้องอ๊อฟที่นอนป่วยติดเตียงและต้องดูแลยายที่มีอายุมากแล้วลำพังคนเดียว ก่อนหน้านี้เคยมีแผงขายเสื้อผ้าในตลาด แต่พอน้องอ็อฟเจอคนเมาขับรถชน ตนต้องขายแผงเสื้อผ้าเอาเงินมาเป็นค่ารักษาน้องอ็อฟและต้องอยู่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะน้องอ็อฟไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทุกวันนี้ตนต้องไลฟ์สดขายของเล็กๆ น้อยๆ ข้างเตียงของลูกชายทุกวันเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแล บางวันก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
หลังศาลมีคำตัดสินตนก็น้อมรับคำตัดสินของศาลแต่ในใจก็มีเสียใจอยู่บ้างซึ่งเงินจำนวน 4 ล้านกว่าบาท ต่อให้เขาชดใช้มาตามที่ศาลสั่งมันก็คงไม่พอที่จะดูแลน้องให้หายหรือดูแลน้องไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่นี่เขากลับไม่เคยติดต่อมาหาตนเลยว่าจะชดใช้อย่างไร ผ่านมากว่า 5 เดือนแล้ว จนมีพลเมืองดีส่งรูปสาววัยรุ่นที่ขับรถชนลูกชายมาให้ดูก็พบว่าหลังศาลตัดสินแล้วเขายังคงใช้ชีวิตกินหรู อยู่สบาย ไปเที่ยวอย่างสบายใจกินอาหารที่ตนกับลูกไม่เคยกินเพราะมันแพง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนรับไม่ได้กับเรื่องนี้จึงตัดสินใจเดินทางจากจ.ลำพูนมาขอให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วกับชีวิตทุกวันนี้ ลำบากมากไม่รู้จะสู้แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน สงสารก็แต่ลูกชายกับยายถ้าหากตนเป็นอะไรไปก่อน
น.ส.ดวงกมล กล่าวอีกว่า ตนอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ รวมถึงบริษัทน้ำเมายี่ห้อต่างๆ พวกคุณควรลงมาช่วยเพราะคุณก็มีส่วนผิด อย่างกรณีนี้คู่กรณีไม่ยอมชดใช้ ทำให้คนที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนมากซึ่งพวกคุณควรมีกองทุนสำหรับชดใช้ให้กับเหยื่อแทนเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะชาวบ้านอย่างพวกตนจะไปจ้างทนายความเพื่อให้ไปสืบทรัพย์บังคับคดีคนทำผิดมาชดใช้ ก็ไม่มีเงินที่จะดำเนินการได้
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีคล้ายกับกรณีที่เด็กเยาวชนขับรถไปชนคนตายแล้วไม่รับผิดชอบ ซึ่งคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาแล้วให้คนก่อเหตุชดใช้เงินกว่า 4 ล้านบาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา ทำให้คนก่อเหตุไม่ยอมจ่ายเงินให้กับแม่น้องผู้เสียหายแม้แต่บาทเดียว ซึ่งทางแม่น้องก็เคารพคำตัดสินของศาล หลังจากนี้ยังมีกระบวนการทางกฎหมายที่สามารถทำได้ด้วยการไปสืบทรัพย์บังคับคดี ตนจะให้แม่น้องไปร้องที่กระทรวงยุติธรรมที่ จ.ลำพูน ให้ส่งเจ้าหน้าที่เขามาช่วยเหลือแม่น้องเขาด้วย เพราะเขาไม่มีเงินที่จะทำเรื่องนี้ได้ ต้องเขาใจว่าทุกอย่างมีต้นทุนหน่วยงานหรือกลไกของรัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือให้ความยุติธรรมกับเขาด้วย
ซึ่งเรื่องนี้แม่น้องอ๊อฟไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลจาก จ.ลำพูน เข้ามาขอให้ตนช่วยถึง กทม. เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครและจะต้องทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้จึงอยากให้สังคมได้รับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตตอนเกิดเรื่อง มีหลายคนหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือแต่ผลสุดท้ายคู่กรณีไม่รับผิดชอบ ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าถ้าเมาแล้วขับต้องมีการแก้กฎหมายให้ติดคุกต้องติดคุกจริงๆ เพื่อให้ทุกคนที่คิดจะดื่มน้ำเมากลัวไม่กล้าขับรถ ไม่งั้นก็จะเหมือนกับกรณีนี้เมาชับ ชน พิการ ติดเตียง แล้วลอยชายไม่รับผิดชอบตนว่ามันไม่ใช่
Source link