
ครอบครัวมหาภัย กินบุฟเฟต์ 5 คน 1,250 บาท สั่งเนื้อสัตว์จัดหนัก 600 จาน คุ้มเกินคุ้ม เจ้าของร้านเดือดจัด แฉที่แท้สอนลูกเป็นขโมย แอบเก็บอาหารกลับบ้าน พกถุงมาพร้อม

การที่มีอาหารให้เลือกหลากหลายโดยสามารถกินได้ไม่อั้น นับเป็นสเน่ห์ของบุฟเฟต์ที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนอีกไม่น้อย ที่จงใจเข้ามาก่อวีรกรรมต่าง ๆ เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์จากทางร้าน จนกลายเป็นเรื่องชวนปวดตับไม่น้อย
เรื่องดังกล่าวถูกเปิดโปงโดย นายจาง เจ้าของร้านหม้อไฟ Husky Billion Steamboat & BBQ ผ่านทางเฟซบุ๊กของร้านเมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม) พร้อมระบุว่า “ขอโทษนะ แต่ผมอยากให้สาธารณชนได้รู้เรื่องนี้ ผมรับไม่ได้จริง ๆ ที่ลูก ๆ ของพวกเขาถูกพาไปเพื่อขโมยของ”
โดยพบว่าเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เวลา 14.30 น. ลูกค้ากลุ่มนี้ซึ่งมากัน 5 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 2 คน ได้เข้ามากินอาหารในช่วง Happy Hour ซึ่งทางร้านจัดโปรบุฟเฟต์ ก่อนที่จะทำการสั่งอาหารปริมาณมาก มีทั้งหมู 250 จาน และเนื้อแกะ 350 จาน ในมื้ออาหารดังกล่าว
เดิมนายจางกับพนักงานที่ร้านก็รู้สึกเอะใจแปลก ๆ เมื่อลูกค้าโต๊ะนี้สั่งอาหารจำนวนมาก แต่ก็ยอมนำอาหารไปเสิร์ฟตามออร์เดอร์ เพราะคิดว่าคนเหล่านี้อาจจะกินจุก็ได้ จนกระทั่งเขาไปย้อนดูภาพวงจรปิดหลังจากนั้น จึงพบว่าจริง ๆ แล้วอาหารทั้งหมดลงท้องลูกค้าไปเพียงบางส่วนเท่านั้น และที่เหลือคือ “ลงถุง” ไปจนหมด
“ประเด็นหลักคือพวกเขาเตรียมตัวมาทำเรื่องแบบนี้ ผมลองดูในภาพวงจรปิด เห็นชัดว่าเด็ก ๆ แอบยัดเนื้อสัตว์ลงถุงพลาสติกที่อยู่ใต้โต๊ะ พวกเขาต้องการนำอาหารกลับไปทำกินเหรอ ?”
พร้อมกันนั้นทางร้านยังแนบบิล ซึ่งระบุค่าอาหารมื้อนั้นอยู่ที่ 163.3 ริงกิต (ราว 1,250 บาท) โดยแบ่งเป็นราคาสำหรับผู้ใหญ่ หัวละ 39.42 ริงกิต (ราว 300 บาท) และเด็กหัวละ 26.82 ริงกิต (ราว 200 บาท) พร้อมอมบส่วนลดสมาชิกให้อีก 5%

ในเฟซบุ๊กของร้าน นายจางยังแสดงความผิดหวังที่ลูกค้าทำเรื่องแบบนี้ แถมยังสอนให้ลูกหลานเป็นขโมย โดยระบุว่า “คุณต้องรู้ว่าบินลูตูเป็นสถานที่เล็ก ๆ คุณรู้จักผม และผมก็รู้จักคุณ แค่การทำธุรกิจก็ลำบากพออยู๋แล้ว ทำไมต้องมาทำให้ผมลำบากขึ้นไปอีกล่ะ”
นายจางชี้ว่า เนื่องจากตอนนี้ทุก ๆ คนต่างก็เผชิญความยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น เขาเลยพยายามจะทำอาหารราคาประหยัด ให้ผู้คนได้กินจนอิ่มโดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายมาก แต่สุดท้ายกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ทั้งนี้ เขาหวังว่าการออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนสำหรับพ่อแม่บ้านอื่น ๆ ให้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก ส่วนครอบครัวหัวขโมยดังกล่าว ต่อให้เข้ามาเสนอเงินชดเชยให้ทางร้าน นายจางก็ยังคิดอยู่ว่าควรจะแจ้งตำรวจดีหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก SAYS