ล่าหนุ่มพม่า คนร้ายฆ่าอดีต จนท. ทูต เจ้าตัวโพสต์คลิปซึ้งลาเมืองไทย ก่อนเผ่นหนีข้ามแดน

ออกหมายจับหนุ่มพม่า ฆ่าอดีต จนท. ทูตในบ้านพัก วงจรปิดพบมีปากเสียงก่อนแทงดับ ส่องโซเชียลพบลงคลิปซึ้งลาเมืองไทยก่อนหนีข้ามแดน

จากกรณี นายวิชิต ชิตวิมาน วัย 63 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ถูกคนร้ายฆาตกรรมในห้องน้ำบ้านพัก โดยต่อมาตำรวจออกหมายจับลูกจ้างต่างด้าวผู้ก่อเหตุแล้วนั้น

อ่านข่าว : หมายจับคนร้าย ฆ่าอดีต จนท.ทูต วงจรปิดมัดตัวชัด แฉขโมยบัตร ATM กดเงินนับแสน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 10 ตุลาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบ้าน พบข้อมูลสำคัญ บันทึกภาพในวันที่ 27 – 28 กันยายน 2566 พบเห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ลักษณะมีปากเสียงกับนายวิชิต บริเวณทางขึ้นบันไดชั้น 1 ที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้าน จากนั้นชายคนร้ายใช้มีดแทงใส่ นายวิชิต ก่อนที่คนเจ็บจะวิ่งหนีขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ส่วนคนร้ายวิ่งไล่ตามขึ้นบันได จากนั้นพบภาคนร้ายรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ก่อนหลบหนีไป

ต่อมาพบว่าช่วงบ่ายของวันที่ 28 กันยายน ภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว บันทึกภาพคนร้ายเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า แล้วไปที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ทยอยกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเป็นจำนวนหลายแสนบาท จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมหลายด้านพบว่า คนร้ายรายนี้เคยทำงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างบ้านแห่งหนึ่ง

หัวหน้าผู้รับเหมาก่อสร้างให้ข้อมูลว่า ชายผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า MR.SAI MYAT MOE สัญชาติเมียนมา อายุ 19 ปี มาสมัครงานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยวันที่ 17 กันยายน เจ้าตัวขอลางาน อ้างไปงานวันเกิดเพื่อน วันที่ 18 กันยายน มาทำงานตามปกติ และวันที่ 19 กันยายน ขอลาออก บอกว่าจะไปทำงานเป็นพ่อบ้าน ดูแลบ้าน ดูแลต้นไม้ ไปช่วยหิ้วของใช้ เวลาที่เจ้านายไปซื้อของ หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกับอดีตลูกจ้างคนนี้อีก

จากการตรวจสอบพบว่า หลังคนร้ายก่อเหตุแทง นายวิชิต ได้ออกจากหมู่บ้านไปเมื่อ 03.20 น. ก่อนจะไปที่ จ.นนทบุรี และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ มีการเปลี่ยนรถแท็กซี่หลายคัน ซึ่งในพื้นที่นี้มีการกดเงินจำนวน 30,000 บาท ก่อนจะไปยังห้างแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เพื่อกดเงินอีกครั้งจำนวน 4,200 บาท จากนั้นขึ้นรถแท็กซี่ไปขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต สาย กรุงเทพ-น่าน

นอกจากนี้พบว่า หลังก่อเหตุคนร้ายยังได้โพสต์คคลิปลง TikTokเป็นคลิปโพสต์ไว้เมื่อประมาณวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายภาพบนรถ และเป็นภาพเส้นทางบนถนน พร้อมข้อความภาษาไทยใหญ่ ซึ่งแปลว่า “กลับแล้ว” พร้อมอิโมจิโบกมือลาและ ธงชาติไทย ก่อนที่จะปิดบัญชีไป เมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม)
ด้าน พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา พบว่า เดินทางไป จ.เชียงราย ในวันที่ 28 กันยายนถึง จ.เชียงราย ในวันที่ 29 กันยายน และเดินทางออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ในเวลา 07.12 น. หลังจากนี้ จะประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองออกหมายจับสากล และส่งไปประเทศต้นทาง เพื่อประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้

Source link