เปิดไทม์ไลน์ 6 ตำรวจทำงานเป็นทีมหลังยิงสารวัตรแบงค์ ช่วยให้กำนันนก – หน่อง ท่าผา หนีรอดไปได้ ส่วนเก่ง คนเอาปืนไปฝัง ร่ำไห้พลิกคำให้การ
วันที่ 10 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก มีการโพสต์เล่าเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์ที่นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จนเสียชีวิต หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะมีตำรวจ 6 นายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตครั้งนี้ และทำงานกันเป็นทีม
แหล่งข่าวระดับสูงในชุดสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า หลังจากหน่องยิงสารวัตรแบงค์แล้ว ก็มีตำรวจนายหนึ่ง เข้าไปแย่งปืนจากหน่องแล้วก็ปล่อยตัวไป จากนั้นก็มีอีกนายพาหน่องออกไปจากจุดเกิดเหตุ นั่งรถยนต์ไปกับนายประวีณ หรือกำนันนก ในลักษณะห้อมล้อมคอยคุ้มกันทั้งพาเข้าไปในบ้านและพาออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ตำรวจของ ร.ต.ท. นิมิตร สลิตกุล นำขบวนพากำนันนกไปที่บ้านอีกหลัง ซึ่งคน ๆ นั้นก็เป็นเจ้าของปืนที่ใช้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีตำรวจบางนายนำปืนที่ใช้ก่อเหตุ
เอาไปห่อด้วยผ้าคลุมเก้าอี้และนำไปฝากไว้กับนายเก่ง คนงานในบ้านกำนันนก
แล้วนายเก่งก็เอาไปฝังดินซ่อนเอาไว้
ก่อนที่ตำรวจจะพบภายหลังตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
อ่านข่าว : ไล่เรียงจับโป๊ะ คดียิงสารวัตรแบงค์ รถตำรวจพาหนี-ทิ้งเซิร์ฟเวอร์-จับแล้วปล่อย ยิ่งสาวยิ่งคาว !
เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า พล.ต.ต. จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ชี้แจงถึงเรื่องรถนำขบวนว่า
ตำรวจที่ขี่รถนั้นเป็นตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ฝ่ายจราจร
ทำหน้าที่ขับรถนำเวลาที่มีเหตุการณ์สำคัญช่วงสำคัญ
ไม่ได้มีหน้าที่มาขับรถนำขบวนให้ตน
ยกเว้นบางครั้งที่เกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น ดังนั้น ข่าวที่ออกไปว่า
คนนำขบวนเป็นตำรวจของตนไม่เป็นความจริง อีกอย่างหนึ่งคือ
ตำรวจนายนั้นสนิทกับบ้านกำนันนกนานแล้ว
ส่วนกรณีที่มีคลิปตนไปงานวันเกิดกำนันนกปี 2565
เป็นเพราะตำรวจนายนี้เชิญไปร่วมงาน และเห็นว่าเป็นวันเกิดของลูกกำนันโยชน์
พ่อกำนันนก ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางและเป็นผู้มีจิตใจดีในจังหวัด
จึงไปร่วมอวยพรแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ส่วนกรณีที่พบว่า
ตำรวจคนขับรถนำขบวน เป็นคนซื้อปืนในโครงการและเอามาให้นายหน่องใช้ก่อเหตุ
ตนไม่ทราบเรื่องนี้ ส่วนการซื้อปืนในโครงการ ตำรวจสามารถทำได้
และห้ามคนอื่นใช้ยกเว้นคนที่ซื้อเท่านั้น
เก่ง ร้องไห้กดดันหนักพลิกคำให้การ ?
เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand รายงานว่า พนักงานสอบสวนเรียกนายเก่ง มาสอบปากคำอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วง 10
โมงเช้า ซึ่งนายเก่งมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างชัดเจน
และบางช่วงของการสอบปากคำก็ร้องไห้ออกมา จนตำรวจต้องนำตัวนายเก่งไปที่ชั้น 2
ของอาคาร
ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามถามนายเก่งว่า
มีใครบังคับให้นำปืนไปฝังดินหรือไม่ ที่ร้องไห้ออกมาเพราะเครียดใช่หรือไม่
ซึ่งนายเก่งก็พยักหน้าเบา ๆ ดังนั้น
คำตอบนี้จึงสวนกับคำให้การที่นายเก่งเคยบอกว่า ไม่มีคนสั่งให้เอาปืนไปทิ้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก, เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
